เมื่ออายุมากขึ้น ! ทำไมถึงต้องยิ่งให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย ?

ร่างกายของคนเราเปรียบเสมือนเครื่องจักรที่ถูกใช้งานอยู่ทุกวัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทุกคนต้องตระหนักถึงสุขภาพร่างกายมากขึ้น เพราะการมีสุขภาพที่ดีก็จะส่งผลให้การดำรงชีวิตดีขึ้นไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น การใช้ชีวิตประจำวัน การใช้ความคิดทางสมอง หรือการเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องแคล่ว 

เมื่ออายุมากขึ้น การออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายแล้ว ก็ยังส่งผลให้มีสุขภาพจิตที่ดีตามไปด้วย ในวันนี้ NBA Sportmanagement จะพาทุกคนไปดูว่า ทำไมเราถึงต้องให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายเมื่ออายุมากขึ้น? ไปดูกัน

ความเปลี่ยนแปลงที่เรามักพบเจอเมื่ออายุมากขึ้น

เมื่อร่างกายเสื่อมสภาพลง ร่างกายของใครหลายคนก็อาจเริ่มแสดงอาการต่าง ๆ ออกมา เช่น บางคนมักมีโรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้น เมื่ออายุเข้าใกล้เลขสาม และอาการเจ็บป่วยก็มักจะแสดงอาการชัดมากขึ้น เมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งอาการที่เรามักจะพบเจอ มีดังนี้

  • ข้อต่อเกิดการสึกหรอ ความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลง กระดูกไม่แข็งแรง
  • ขนาดของมัดกล้ามเนื้อเล็กลง ส่งผลให้ความแข็งแรงลดลง
  • จำนวนของเส้นใยในกล้ามเนื้อน้อยลง ส่งผลให้พละกำลังน้อยลง
  • ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อลดลง โอกาสเกิดการบาดเจ็บเพิ่มมากขึ้น
  • ความทนทานของกล้ามเนื้อลดลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้งานกล้ามเนื้อในระยะเวลานานแย่ลง
  • ความสามารถของระบบหัวใจและการหายใจต่ำลง ทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยง่าย เมื่อมีการใช้งานนาน ๆ 
  • ระดับไขมันในร่างกายเพิ่มมากขึ้น เสี่ยงต่อโรคร้ายที่ตามมาได้ เช่น ไขมันอุดตันในเส้นเลือด, ความดัน, เบาหวาน และโรคอื่น ๆ เป็นต้น
  • ปัญหาทางสายตาที่พร่ามัว หรืออาการอื่น ๆ เช่น สายตาสั้น สายตายาว บางคนหนักหน่อยก็อาจเป็นต้อได้ด้วย

สำหรับใครที่กำลังมีอาการเหล่านี้อยู่ แสดงว่าร่างกายของคุณเริ่มมีการเสื่อมสภาพลงแล้ว ดังนั้นนอกจากที่คุณจะต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว เราก็แนะนำให้คุณออกกำลังกายเสริมเพิ่มเติมไปด้วย เพื่อทำให้ร่างกายมีความแข็งแรงและมีประสิทธิภาพดีอยู่เสมอ

การออกกำลังกายช่วยพัฒนาความสามารถของร่างกายส่วนใดบ้าง? 

1. ความสามารถในการเคลื่อนไหวของข้อต่อ (Mobility)

การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยฝึกการเคลื่อนไหวของข้อต่อแต่ละส่วน เช่น ช่วงเข่า, คอ, หลัง หรือส่วนอื่น ๆ ให้ทำงานได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็ยังช่วยให้ข้อต่อทำงานสอดคล้องกับกล้ามเนื้อด้วย โดยการออกกำลังกายที่แนะนำ คือ โยคะ, พิลาทิส, ว่ายน้ำ, ท่าสควอชพิงกำแพง เป็นต้น

ภาพจาก eldergym

2. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Strength)

การออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสามารถทำได้หลายรูปแบบ โดยอาจจะเริ่มจากการเวทเทรนนิ่งหรือออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน เพื่อเป็นการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงและให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งยังส่งผลให้ร่างกายมีการเผาผลาญไขมันได้ดีด้วย 

แต่ทั้งนี้การเวทเทรนนิ่งควรใช้น้ำหนักที่เหมาะสมกับร่างกายของตัวเอง ไม่ควรยกเวทที่หนักจนเกินไป เพื่อให้เราควบคุมการเคลื่อนไหวและทรงตัวได้ง่าย โดยคุณสามารถฝึกเวทเทรนนิ่ง 2-3 วัน/สัปดาห์ แบบวันเว้นวัน (หรือรูปแบบที่ไม่ต่อเนื่องกัน)

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง:

ภาพจาก morelifehealth

3. ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ (Flexibility)

การออกกำลังกายในรูปแบบของการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยลดโอกาสเกิดการบาดเจ็บจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ โดยการออกกำลังกายเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกายทำได้ง่ายมาก ด้วยการยืดเหยียดร่างกายเบา ๆ และมีการวอร์มร่างกายควบคู่กันไปอย่างสม่ำเสมอด้วย เช่น การวิ่ง การเดิน หรือการออกกำลังกายแบบอื่น ๆ

ภาพจาก perfectsleepchair

4. การทรงตัว (Balance)

การออกกำลังกายแบบทรงตัวเป็นอีกส่วนที่สำคัญสำหรับผู้ที่เริ่มมีอายุที่สูงขึ้น โดยเราสามารถออกกำลังกายได้หลายวิธี เช่น โยคะ, ไทเก็ก, ไทชิ, ชี่กง เป็นต้น สามารถฝึกได้ทุกวัน และวันละหลาย ๆ ครั้งตามความสามารถและความเหมาะสมของร่างกาย 

5. ความทนทานของหัวใจและระบบหายใจ (Aerobic Capacity)

เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมจะลดลง คุณจึงควรบริหารร่างกายเพื่อให้สามารถทำกิจกรรมได้แบบต่อเนื่อง ด้วยการออกกำลังกายแบบง่าย ๆ เช่น เดิน, เดินเร็ว, วิ่งเหยาะ ๆ หรือกิจกรรมเต้นแอโรบิค เพื่อให้หัวใจ ปอด ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบหายใจทำงานได้ดีและแข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งยังลดโอกาสการเกิดโรคต่าง ๆ อย่าง เบาหวาน ความดัน และคอเลสเตอรอลสูงอีกด้วย 

**จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นเลยว่าการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาส่วนต่าง ๆ นั้นมีความสำคัญในทุกด้าน ถ้าอยากให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ก็ควรปฏิบัติและให้ความสำคัญกับกล้ามเนื้อทุกส่วนเท่ากันหมด (แต่ควรปฏิบัติให้เหมาะสมกับร่างกายของตัวเอง ไม่ฝืนร่างกายจนเกินไป) 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง:

ภาพจาก cathe

คำแนะนำการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ

เป้าหมายการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นออกกำลังกายเพื่อให้ผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ดีและคงสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นการออกกำลังกายสำหรับผู้ที่มีอายุมากขึ้นก็ควรให้สอดคล้องกับกิจกรรมที่ต้องการพัฒนา เช่น

  • การเดินยกของที่ไม่หนักจนเกินไป
  • การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
  • การลุก-นั่งขณะเข้าห้องน้ำ
  • หรือกิจกรรมอื่น ๆ

ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง และมีสุขภาพที่แข็งแรงยาวนาน หรือการใช้เครื่องออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้สำหรับผู้ที่มีสูงอายุใช้ในการออกกำลังกายได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง:

แนะนำเครื่องออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ

ลู่วิ่งไฟฟ้า Gorilla Teck A185

ในปัจจุบันนี้ ลู่วิ่งไฟฟ้า ได้กลายมาเป็นทางเลือกที่ผู้สูงอายุหลายคนเลือกใช้ออกกำลังกาย เพราะเหมาะสำหรับการเดิน และยังมีฟังก์ชันมากมายที่เหมาะกับการออกกำลังกายในผู้สูงอายุ เช่น มีการปรับความเร็ว ความเอียง มีราวจับไว้ให้ สายพานนุ่ม ลดแรงกระแทก ไม่เป็นอันตรายต่อข้อต่อ และที่สำคัญ ยังมาพร้อมกับระบบ Safety ออกแบบมาให้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็น 

  • ระบบวัดชีพจร ที่ทำให้เราสามารถรับรู้ถึงความผิดปกติของร่างกายระหว่างที่กำลังวิ่ง, เดิน หรือออกกำลังกายอยู่
  • ระบบปุ่มหยุดฉุกเฉิน ช่วยให้เราสามารถหยุดลู่วิ่งไฟฟ้าได้ทันที หากเกิดความผิดปกติหรือว่าเราวิ่งไปต่อไม่ไหว เครื่องจะหยุดทำงานทันทีเมื่อกดปุ่มหยุดฉุกเฉิน
  • ระบบกันกระแทกระหว่างวิ่งหรือออกกำลังกาย ระบบกันกระแทกเพื่อป้องกันการบาดเจ็บส่วนหัวเข่าและข้อเท้า ผู้ใช้งานที่มีน้ำหนักตัวเยอะหรือผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้อย่างไม่ต้องเป็นกังวลเลย

ถ้าหากใครที่กำลังมองหาลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันครบครัน ปลอดภัย เหมาะกับการให้ผู้สูงอายุได้ออกกำลังกายที่บ้าน NBA Sportmanagement ขอแนะนำ ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่น Gorilla Teck A185 ในราคาสุดคุ้มเพียง 38,800 บาทเท่านั้น มาพร้อมสเปคสุดพรีเมียม ให้ออกกำลังกายได้ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น

  • เป็นลู่วิ่งไฟฟ้าพับได้ (ประหยัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน)
  • มอเตอร์ไฟฟ้าแรง 3 แรงม้า ชนิด AC (มอเตอร์สามารถใช้งานได้นานเหมือนฟิตเนส) 
  • ขนาดของสายพานที่ใช้ในการวิ่งกว้างถึง 54 เซนติเมตร ยาว 150 เซนติเมตร
  • รองรับน้ำหนักผู้ใช้งานมากถึง 150 กิโลกรัม 
  • ปรับความเร็วสูงสุด 20 กิโลเมตร / ชั่วโมง และปรับความชันได้สูงสุดถึง 15 ระดับ
  • หน้าจอโปรแกรมการวิ่งกว่า 12 โปรแกรม สามารถวัดชีพจร, อัตราเผาผลาญไขมันในการวิ่ง และตั้งเป้าหมายในการฝึกได้ตามต้องการ
  • ช่องสี่เหลี่ยมสำหรับวางแก้วน้ำ และโทรศัพท์ 
  • มีพัดลมในตัว (คลายความร้อนในขณะวิ่ง)
  • ช่องสำหรับเสียบ USB (สามารถเปิดเพลงฟังได้ มีลำโพงในตัว)

สำหรับใครที่อยากซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าไปให้คนที่คุณรัก สามารถสั่งซื้อกับเราได้เลยตอนนี้ แถมจัดส่งและติดตั้งฟรีถึงที่ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล) และยังรับประกันมอเตอร์ยาวนาน 5 ปี พร้อมตรวจเช็กสภาพให้ทุก 4 เดือน สามารถสั่งซื้อได้เลยที่ LINE Official: @maxnumfitness

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!