แนะนำทริค วิ่งและออกกำลังกายอย่างไรให้ปลอดภัยจากโควิด-19 โอไมครอน

เนื่องด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน โควิด-19 สายพันธ์โอไมครอนกำลังระบาดหนักขึ้นเป็นอย่างยิ่งในประเทศ ซึ่งความน่ากลัวของโควิด-19 สายพันธ์นี้คือสามารถแพร่กระจายเชื้อได้เร็วและง่ายกว่าเชื้อโควิด-19 สายพันธ์อื่น ๆ และส่งผลเสียระยะยาวต่อร่างกายถ้าเกิดได้รับเชื้อ

ซึ่งปัญหานี้ก็เข้ามาสร้างความหนักใจให้กับผู้ที่ชอบออกกำลังกาย วิ่ง ทุกคนโดยเฉพาะแบบกลางแจ้ง ที่ทำให้ช่วงนี้หลายคนอาจจะเกิดอาการไม่กล้าที่จะไปออกกำลังกายนอกสถานที่ แต่ความเป็นจริงแล้วการออกไปวิ่งหรือออกกำลังกายนอกสถานที่ ถ้าคุณรู้วิธีในการเตรียมตัวและป้องกันที่ถูกต้อง การออกกำลังกายภายนอกก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป

ในบทความนี้ NBA Sportmanagement เลยขอมาแนะนำทริค วิ่งและออกกำลังกายอย่างไรให้ปลอดภัยจากโควิด-19 โอไมครอน เพื่อช่วยให้คุณสามารถออกกำลังกาย วิ่งกลางแจ้งได้อย่างสบายใจและปลอดภัยที่สุด

การแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 โอไมครอนเมื่อเวลาออกกำลังกาย

จากผลการสำรวจและวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในยุโรป อธิบายเรื่องของการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 โอไมครอน เมื่อเวลาออกกำลังกายเอาไว้ว่า หากเป็นการ เดิน ออกกำลังกาย ถ้าใครที่ติดเชื้อโควิด-19 อยู่แต่ไม่แสดงอาการ จะสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ไกล 4-5 เมตร 

ขณะที่การวิ่งหรือปั่นจักรยานแบบที่ไม่ใช้ความเร็วหากมีเชื้ออยู่จะสามารถแพร่เชื้อได้ไกล 10 เมตร และหากวิ่งหรือปั่นจักรยานแบบเร็ว ๆ จะสามารถ แพร่เชื้อได้ไกลถึง 20 เมตร ซึ่งถือเป็นระยะทางที่ไกลมาก และถ้าหากผู้ที่ออกกำลังกายเกิดติดเชื้อโควิดแบบไม่แสดงอาการขึ้นมา ก็จะเกิดความเสี่ยงเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ที่แพร่เชื้อให้กับผู้ที่มาออกกำลังกายในสถานที่เดียวกันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

‍

ดังนั้นการที่คุณจะออกไปออกกำลังกายหรือลองไปวิ่งกลางแจ้งนั้น ควรต้องเตรียมตัวป้องกันร่างกายตัวเองให้ดี และรักษาระยะห่างจากบุคคลอื่น ๆ เพื่อป้องกันโอกาสในการรับเชื้อโควิด-19 หรือในกรณีถ้าคุณไปพบปะกับผู้คนกลุ่มเสี่ยงมาก่อน ก็ควรตรวจโควิด ATK แบบเบื้องต้นก่อนเพื่อทำให้แน่ใจว่าจะไม่แพร่กระจายเชื้อให้กับผู้อื่น หรือเลือกที่จะออกกำลังกายอยู่ที่บ้าน ในโฮมยิมของตัวเอง ก็เป็นวิธีที่ปลอดภัยต่อทั้งตัวเองและผู้อื่นที่สุด

การวิ่ง และออกกำลังกายสามารถช่วยป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้หรือไม่ ?

งานวิจัยจาก British Journal of Sports Medicine ได้กล่าวเอาไว้ว่า ผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายเลยจะมีความเสี่ยงจากอาการป่วยหนักจากเชื้อโควิด-19 ที่ส่งผลให้ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดก็คืออาจเสียชีวิตได้

แต่เมื่อเทียบผลกับผู้ที่ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์และได้รับเชื้อโควิด-19 เหมือนกัน จะพบได้ว่า บุคคลกลุ่มนี้ไม่มีอาการร้ายแรง สามารถพักผ่อนกักตัวได้ที่บ้านโดยที่ไม่มีอาการสุ่มเสี่ยงเพิ่มเติม จนกระทั่งรักษาตัวหายและสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติในที่สุด

และอีกหนึ่งงานวิจัยจาก National Institutes of Health ในเดือนมิถุนายน 2020 ก็ได้ให้ข้อมูลสอดคล้องเหมือนกันว่า การออกกำลังกายสามารถช่วยกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ที่จะเป็นตัวช่วยในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี

โดยนักวิจัยได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเอาไว้ว่า การออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง (HIIT) ก็เป็นปัจจัยที่ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโควิด-19 ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งพวกเขาได้ทำการทดสอบจากกลุ่มตัวอย่างของผู้ใหญ่ 400,000 คนในประเทศอังกฤษ ที่แบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งจะออกกำลังกายโดยการเดินช้า ๆ (Slow Running) และอีกกลุ่มจะออกกำลังกายโดยการเดินเร็ว (Brisk Walking) โดยผลออกมาพบว่า คนที่เดินช้ามีโอกาสเสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 มากกว่าคนที่เดินเร็วเป็นอย่างมาก ซึ่งผลนี้ยังไม่นำมาคำนวณรวมกับภาวะน้ำหนักเกิน (Obesity) ของบุคคลในกลุ่มตัวอย่าง แต่คาดการณ์ได้ว่าความเสี่ยงจะยิ่งสูงขึ้นหลายเท่าหากมีภาวะนี้ร่วมด้วย

แนะนำวิธีวิ่งและออกกำลังกายกลางแจ้ง ให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 มากที่สุด 

หากใครที่มีความต้องการที่จะออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยเฉพาะการวิ่งจ๊อกกิ้ง นี่คือคำแนะนำที่จะทำให้คุณวิ่งได้อย่างปลอดภัยจากโควิด-19 มากขึ้น ถ้าไปออกกำลังกายตาม สถานที่สาธารณะ สถานที่กลางแจ้งในช่วงนี้ มีวิธีดังนี้ 

วิ่งให้ห่างจากบุคคลอื่นอย่างน้อย 2-3 เมตร

อ้างอิงจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ การ Social Distancing ควรมีระยะห่างกันประมาณ 2-3 เมตร ซึ่งระยะห่างนี้ก็เป็นเพียงตัวเลขขั้นต่ำเท่านั้น เพราะการวิ่งจะทำให้เราเหนื่อยหอบ มีการหายใจเร็วขึ้นกว่าปกติ อาจสูดเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ร่างกายได้

ดังนั้นแล้วการ Social Distancing จึงสามารถช่วยหลีกเลี่ยงการรับสารคัดหลั่งจากผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีเชื้อโควิด-19 ที่สามารถแพร่เชื้อได้จากการไอ จาม

วิ่งโดยใส่หน้ากากอนามัยเสมอ

ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้จะมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีประสิทธิเพิ่มภูมิต้านทานได้พอสมควร ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ได้แนะนำให้ทุกคนยังต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้ออยู่เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งการวิ่งหรือออกกำลังกายนอกบ้าน เพราะการฉีดวัคซีนไม่สามารถป้องกันได้ 100% เพียงแต่จะช่วยในการลดความรุนแรงของโรคแทรกซ้อนลงเท่านั้น

การสวมใส่หน้ากากอนามัยยังมีประโยชน์ในบางสถานการณ์ที่เราไม่สามารถเว้นระยะห่างหรือ Social Distancing ได้ เช่น การใช้รถโดยสารสาธารณะ การทำงานในพื้นที่จำกัด ฯลฯ ดังนั้นเราจึงหลีกเลี่ยงการสวมใส่หน้ากากอนามัยไม่ได้หากต้องการจะปกป้องตัวเองให้พ้นจากเชื้อโควิด-19 รวมถึงเป็นการหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อได้ในระยะยาว

หน้ากากที่แนะนำให้ใส่นั้นควรจะเป็นหน้ากากผ้าหรือผ้าบัฟ (ผ้าคลุมใบหน้า) เพราะสามารถระบายอากาศได้ดีขณะวิ่งออกกำลังกาย หน้ากากที่ควรหลีกเลี่ยงคือ N95 เพราะการวิ่งต้องการออกซิเจนสูง ยิ่งหน้ากากอนามัยมีความหนา ก็ยิ่งจะทำให้หายใจลำบาก อึดอัด อาจทำให้หน้ามืด เป็นลม

เลือกเวลาวิ่งให้ถูกต้อง

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ได้กล่าวเอาไว้ใน Live ว่า การวิ่งออกกำลังกายเป็นกลุ่มนั้นมีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด-19 แบบไม่แสดงอาการ ดังนั้นจึงควรที่จะจำกัดจำนวนของบุคคลในการวิ่งออกกำลังกาย หากเป็นไปได้ก็ควรวิ่งออกกำลังกายเพียงคนเดียวในสถานที่ปลอดภัย เช่น การออกกำลังกายในบ้าน หรือ Home Gym โดยใช้ ลู่วิ่งไฟฟ้า เครื่องเดินวงรี ฯลฯ 

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ว่ามีอัตราการแพร่เชื้อที่สูงแค่ไหน ถ้าอัตราการแพร่เชื้อต่ำก็สามารถวิ่งออกกำลังกายได้พร้อมกับคนรู้จัก หรือบุคคลในครอบครัวได้ 2-3 คน แต่ก็ต้องเป็นคนที่เราไว้ใจได้ และไม่มีการปกปิดข้อมูลว่าติดเชื้อ รวมถึงลดการสื่อสารลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

มากไปกว่านั้น การเลือกเวลาเพื่อวิ่งออกกำลังกาย ก็มีส่วนสำคัญในการช่วยหลีกเลี่ยงเชื้อโควิด-19 ได้ เช่นช่วงเวลาดังต่อไปนี้

• ขณะเช้าตรู่ ช่วงเวลา ตี 5 จะเป็นช่วงที่คนยังไม่พลุกพล่าน
• ขณะพักเที่ยง เป็นช่วงเวลาที่คนยังรับประทานอาหารอยู่

ไม่หยิบยืมอุปกรณ์ ล้างมือสม่ำเสมอ

ในกรณีที่วิ่งออกกำลังกายเป็นกลุ่ม สิ่งที่ไม่ควรทำคือการยืมสิ่งของกันและกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า โทรศัพท์มือถือ รองเท้า เป็นต้น เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสิ่งของเหล่านั้นถูกไอ จาม สัมผัส จนมีเชื้อโควิด-19 เกาะติดอยู่หรือไม่ 

แต่หากสัมผัสหรือยืมของไปแล้ว และไม่แน่ใจว่าปลอดภัย สิ่งที่ควรจะหลีกเลี่ยงคือการสัมผัสบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะดวงตา, ปาก และจมูก และทำการล้างมือด้วยเจลล้างมือ หรือสบู่ทันที เพราะสามารถช่วยลดอัตราการรับเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมาก

ขณะวิ่งควรสังเกตรอบข้างอยู่เสมอ

การวิ่งออกกำลังกายภายใต้สถานการณ์โควิด-19 นี้จำเป็นจะต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ควรที่จะสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัวตลอดเวลา เช่น สังเกตบุคคลใกล้เคียงที่ได้ไอ จาม ขณะเราวิ่งออกกำลังกาย เพื่อทำการหลีกเลี่ยง หรือสังเกตเพื่อเว้นระยะห่าง Social Distancing กับบุคคลอื่นอย่างน้อย 2-3 เมตร

แต่เชื้อโควิด-19 นั้นก็ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งเดียวที่ต้องพึงระวัง โดยเฉพาะคนที่วิ่งในตัวเมือง เพราะเราควรที่จะใส่ใจและระมัดระวังจากภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากรถยนต์ จากการวิ่งออกกำลังกาย หรือบุคคลรอบตัว เป็นต้น

เลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า ตัวช่วยสำหรับการออกกำลังกายในบ้านที่ดีที่สุด

การวิ่งออกกำลังกายบนลู่วิ่งไฟฟ้ามีประโยชน์ไม่แพ้กับการออกไปวิ่งออกกำลังกายข้างนอกบ้าน สามารถช่วยลดไขมัน เผาผลาญแคลอรี่ พัฒนาระบบทางเดินหายใจ ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บ รวมถึงมีฟังก์ชันการปรับความเร็ว ความชัน และความสะดวกสบายที่การวิ่งออกกำลังกายปกติไม่สามารถทำได้

มากไปกว่านั้น การวิ่งออกกำลังกายบนลู่วิ่งไฟฟ้าในบ้านยังช่วยป้องกันไม่ให้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ เพราะบ้านคือสถานที่ปิด ทำให้ไม่จำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากขณะออกกำลังกายให้อึดอัด รวมถึงยังสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ไปได้ขณะวิ่ง เช่น การดู YouTube, Netflix หรือฟังเพลง เพื่อเพิ่มสีสันให้กับการออกกำลังกายได้อีกมาก

สรุป

การวิ่งออกกำลังกายถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ปกติ เราจึงจะต้องมีมาตรการในการดูแลตัวเองขณะออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การออกกำลังกายนั้นส่งผลประโยชน์มากกว่าข้อเสียจากการติดเชื้อโควิด-19 นั่นเอง

ดังนั้นใครที่ยังไม่ได้เป็นเจ้าของ ลู่วิ่งไฟฟ้า เพื่อออกกำลังกายในช่วงยุคโควิด-19 นี้ ที่ NBA Sportmanagement มีบริการจัดจำหน่ายลู่วิ่งไฟฟ้าเกรดฟิตเนสภายในบ้าน ทั้งบน Shopee,  Lazada และ บนเว็บไซต์ โดยรับประกันสินค้า 1 ปี บริการจัดส่งและติดตั้งให้ฟรีถึงที่บ้าน และอุ่นใจกับคุณภาพด้วยบริการตรวจเช็กสภาพอุปกรณ์ออกกำลังกายทุก 4 เดือน