เทคนิคเลือกซื้อเครื่องปั่นจักรยานง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง

อย่างที่ทุกคนน่าจะทราบกันอยู่แล้วว่า ปัญหาหลักของการปั่นจักรยานในบ้านเรานั้นมีค่อนข้างจำกัด และเป็นไปได้ยากมาก เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ถนนแออัดรถติด พื้นผิวถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ส่งผลทำให้การออกไปปั่นจักรยานด้านนอกนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ง่าย

เครื่องปั่นจักรยานจึงได้เข้ามาตอบโจทย์และแก้ปัญหาส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะทุกคนนั้นสามารถปั่นจักรยานได้ง่าย ๆ จากพื้นที่เล็ก ๆ ภายในบ้าน โดยฟังก์ชันการใช้งานยังถูกออกแบบมาให้ได้ความรู้สึกของการปั่นจักรยานนั้นเหมือนกับการออกไปปั่นจักรยานข้างนอกจริง ๆ และที่พิเศษกว่านั้นก็คือคุณสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกันได้ในขณะใช้เครื่องปั่นจักรยานอีกด้วย เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เป็นต้น

แต่ทว่าการเลือกซื้อเครื่องปั่นจักรยานนั้นค่อนข้างซับซ้อน เพราะมีหลายรูปแบบทั้ง จักรยาน (Spin Bike), จักรยานนั่งปั่น (Up Right Bike), จักรยานเอนปั่น (Recumbent Bike), จักรยาน 2 ระบบ (Air Bike) และยังมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันอีกด้วย 

วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำวิธีดูเครื่องปั่นจักรยานที่ถูกต้องเพื่อให้คุณเลือกซื้อได้ตามความต้องการและเหมาะสมต่อการออกกำลังกายของคุณ

มาทำความรู้จักกับเครื่องปั่นจักรยานแต่ละชนิดให้มากขึ้น

ก่อนที่เราจะไปดูกันว่าวิธีการเลือกซื้อเครื่องปั่นจักรยานนั้นมีอะไรบ้าง เรามาดูลักษณะการใช้งานของเครื่องปั่นจักรยานแต่ละรูปแบบกันก่อน เพื่อให้คุณเข้าใจถึงลักษณะการใช้งานที่เหมาะสมของคุณ โดยที่เราได้รวบรวมมาไว้ให้คุณแล้วดังนี้

1. Spin Bike

สำหรับเครื่องปั่นจักรยาน Spin Bike ตัวนี้ คงคุ้นหูคุ้นตาสำหรับผู้ที่เคยใช้บริการในฟิตเนสอย่างแน่นอน เพราะเป็นอุปกรณ์สุดฮิตที่มีไว้สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักและสร้างความแข็งแรงโดยเฉพาะ สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีกว่าจักรยานรูปแบบอื่น ๆ และยังมีความแข็งแรง ทนทานมากกว่าด้วย 

โดยผู้เล่นนั้นสามารถนั่งปั่น ยืนปั่น หรือที่เรียกว่า Sprint RPM (ปั่นด้วยความเข้มข้น) ได้ความรู้สึกเหมือนได้ออกไปปั่นจักรยานจริง ๆ เหงื่อไหล ไคลย้อย กันเลยทีเดียว จึงเป็นเหตุผลที่คลาสออกกำลังกายจึงเลือกใช้เจ้าเครื่องนี้เป็นหลักนั่นเอง

2. Up-Right Bike 

สำหรับเครื่องนั่งปั่น Up-Right Bike นั้นเป็นจักรยานที่ถูกเลือกใช้รองลงมาจาก Spin Bike เพราะสามารถปั่นเผาผลาญแคลอรี่ได้เหมือนกัน แต่อาจจะไม่เข้มข้นเท่ากับ Spin Bike เนื่องจากลักษณะเป็นการนั่งปั่นหลังตรงไม่สามารถโค้งตัวปั่น หรือยืนปั่นแบบเข้มข้นได้

เจ้าเครื่องนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก และต้องการฟิตสุขภาพให้แข็งแรง แต่ไม่ได้ต้องการความเข้มข้นของการปั่นที่มากจนเกินไป 

3. Recumbent Bike

สำหรับเครื่องปั่นจักรยาน Recumbent Bike นั้น หากแปลตรงตัวก็คือมีไว้สำหรับคนขี้เกียจ ซึ่งดูจากรูปลักษณ์แล้วสำหรับใครที่ขี้เกียจหรือไม่อยากออกกำลังกายแบบรอบจัดก็สามารถเลือกเจ้าเครื่องนี้ได้ แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น 

จริง ๆ แล้วเจ้าเครื่องนี้ยังเหมาะกับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีปัญหาตามไขข้อกระดูก ข้อเท้า หรือช่วงกล้ามเนื้อขาอักเสบ แถมยังสามารถบรรเทาอาการบาดเจ็บและช่วยฟื้นฟูอาการเหล่านี้ได้ด้วย เป็นเหตุผลที่ถูกเลือกนำไปใช้สำหรับการบำบัดทางการแพทย์

4. Air Bike

สำหรับเจ้าเครื่องนี้คือเครื่องปั่นจักรยานระบบ Air Bike เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ออกมาหลังเครื่องจักรยานรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ผู้เล่นนั้นสามารถบริหารร่างกายได้ทั้งส่วนบนและส่วนล่างไปพร้อมกันจากเครื่องเดียว 

เพราะมี 2 ระบบการทำงานด้วยกัน คือ 

1.รูปแบบการปั่นแบบ Spin Bike การปั่นจักรยานเหมือนกับเครื่องปั่นจักรยานรูปแบบอื่น ๆ 

2.เดินวงรี (Elliptical) บริหารกล้ามเนื้อช่วงแขน หัวไหล่ 

ซึ่งทำให้ร่างกายได้บริหารช่วงบนลำตัวเพิ่มขึ้นมาต่างจากรูปแบบอื่นนั่นเอง

วิธีเลือกซื้อจักรยานออกกำลังกายให้เหมาะสมและคุ้มค่าสำหรับคุณ

หลังจากที่เราได้รู้จักเครื่องปั่นจักรยานแต่ละรูปแบบกันแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงเห็นภาพมากขึ้นแล้วว่า รูปแบบของแต่ละเครื่องนั้นควรจะเลือกให้เหมาะสมกับร่างกายของตัวเองอย่างไร 

ทีนี้เราจะพามาดูฝั่งของระบบการทำงานกันบ้าง เพราะนอกจากลักษณะของการออกกำลังกายที่แตกต่างแล้ว ก็ยังมีในเรื่องของสเปค ราคา ฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันอีกด้วย เพื่อให้คุณได้เลือกเครื่องออกกำลังกายให้เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด

• ความเหมาะสม
  

เลือกเครื่องปั่นจักรยานให้เหมาะต่อความต้องการและงบประมาณ เช่น ถ้าเราต้องการปั่นจักรยานในบ้านเพื่อออกกำลังกายกับครอบครัวก็ควรเลือกรูปแบบของจักรยานให้คนในบ้านสามารถออกกำลังกายได้สะดวก ราคาไม่แพงมาก และควรเลือกขนาดให้สัมพันธ์ต่อน้ำหนักของผู้ใช้ 

แต่หากต้องการใช้งานเพื่อการออกกำลังกายแบบจริงจังก็ควรขยับสเปคและราคาขึ้นเพื่อให้เหมาะกับฟังก์ชันที่หลากหลาย และเหมาะสมตามความต้องการ

• ระบบขับเคลื่อนล้อหมุน
  

ระบบที่ช่วยขับเคลื่อนในการออกกำลังกาย แบ่งได้ 2 แบบ คือ 

- ระบบสายพาน : ออกแบบมาสำหรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะ เพราะช่วยเสริมความนุ่มนวลในการปั่น ลดการเกิดเสียง ทนทานต่อการใช้งาน (ปัจจุบันส่วนใหญ่เริ่มเปลี่ยนมาใช้ระบบนี้หมดแล้ว)

- ระบบโซ่ : เป็นระบบพื้นฐานของจักรยาน ให้ความรู้สึกเหมือนการปั่นจักรยานทั่วไป มีเสียงเล็กน้อย และความนุ่มนวลในการปั่นอาจจะไม่ดีเท่าระบบสายพาน (ราคาค่อนข้างถูกเหมาะกับคนงบน้อย)‍

และอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือจานล้อ เป็นตัวขับเคลื่อนที่รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งาน เช่น

- น้ำหนักของจานล้อ 6-12 กิโลกรัม : เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นออกกำลังกายโดยทั่วไป

- น้ำหนักของจานล้อ 13-20 กิโลกรัม : เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำเป็นระยะเวลานาน

- น้ำหนักของจานล้อ 20 กิโลกรัม ขึ้นไป : เหมาะสำหรับการใช้ในฟิตเนส รองรับการปั่นเป็นเวลานานต่อเนื่องโดยไม่ต้องพัก

• ระบบแรงต้าน
  

อีกหนึ่งในระบบที่สำคัญของการปั่นจักรยาน ที่ต้องใช้พลังงานในการออกกำลังกายมากขึ้น เมื่อมีปรับแรงต้านมากขึ้น ซึ่งระบบแรงต้านนั้นก็มี 2 ประเภทด้วยกัน คือ

- ระบบผ้าเบรค : เป็นระบบพื้นฐานของจักรยานทั่วไป ราคาไม่แพง แต่อาจจะมีเสียงการเสียดสีระหว่างผ้าเบรคกับจานล้อเล็กน้อย

- ระบบแม่เหล็ก : ระบบแม่เหล็กจะสร้างแรงต้านกำลังสูง เป็นการปรับแรงดึงดูดของแม่เหล็กยึดเข้ากับจานล้อแทนการเสียดสี เสียงเงียบ นุ่มนวลกว่า ราคาสูงกว่าตามแต่ละรุ่น

• หน้าจอและโปรแกรม

ฟังก์ชันหน้าจอจะแสดงรายละเอียดพื้นฐานที่มีในการออกกำลังกาย โดยปกติแล้วจะประกอบไปด้วย

ค่าความเร็ว, เวลา, ระยะทาง, แคลอรี่, อัตราการเต้นของหัวใจ, ปรับความชัน 

แต่สำหรับบางรุ่นที่มีราคาสูงขึ้นมาหน่อย ก็จะมีการวัดรอบขา หรือการวัดจังหวะในการปั่นเพื่อรักษาจังหวะให้คงที่ บางเครื่องที่มี Fat burn / อธิบายความหมาย

• บริการจัดส่งและรับประกันสินค้าหลังการขาย

ปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การเลือกร้านค้าที่เชื่อถือได้ เพื่อที่ว่าเราจะได้คำแนะนำสินค้าที่ดีและมีคุณภาพ และคุ้มค่าต่อค่าใช้จ่ายที่สุด ร้านค้าที่ดีนั้นจะต้องมีพร้อมทั้งการรับประกันสินค้าเมื่อเกิดการชำรุด (มีทีมพร้อมซ่อมอะไหล่ถึงที่ ฟรีตามระยะของประกัน) 

มากกว่านั้นจะต้องมีทีมที่พร้อมติดตั้งฟรี ให้คำแนะนำการใช้สินค้าที่ครบครันอีกด้วย เพื่อป้องกันการโดนโกงต่าง ๆ ไม่ว่าจะราคาที่สูง ไม่มีการรับผิดชอบเมื่อสินค้าชำรุด และอื่น ๆ ที่จะเป็นผลเสียตามมา เพื่อให้ผู้ซื้อนั้นเกิดความสบายใจในการซื้อสินค้าที่คุ้มค่าต่อพวกเขานั่นเอง ดังนั้นก่อนซื้อสินค้าควรจะสอบถามการรับประกันสินค้าก่อนทุกครั้งด้วย ซึ่งสิ่งนี้มักเป็นข้อผิดพลาดของผู้ที่ซื้อเครื่องออกกำลังกายกันทั้งนั้น

สรุปทั้งหมด 

สำหรับเครื่องปั่นจักรยานนั้นถือว่าจัดอยู่ใน Top 3 ของเครื่องออกกำลังกาย Cardio ที่ถูกเลือกใช้งานมากที่สุด ดังนั้นการเลือกซื้อที่ถูกต้องไม่ได้ส่งผลแค่เพียงว่าคุณจะได้เครื่องออกกำลังกายที่คุ้มค่าและเหมาะสมเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยทั้งในการประเมิณค่าใช้จ่ายของคุณ ที่สำคัญก็คือคุณจะได้ทั้งความสุข และสุขภาพที่ดีอีกด้วย 

ซึ่งสำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องปั่นจักรยานสักตัว โดยมีงบประมาณที่จำกัด และความต้องการในการออกกำลังกาย คุณสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับเราเพื่อเพิ่มการตัดสินใจและเลือกซื้อได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น ปรึกษาได้ทันที ที่นี่