การอดนอน ไม่ใช่เรื่องเล็ก! รวม 6 ข้อเสียของการอดนอนที่คุณควรหลีกเลี่ยง

การอดนอน ไม่ใช่เรื่องเล็ก! รวม 6 ข้อเสียของการอดนอนที่คุณควรหลีกเลี่ยง

ถึงแม้ว่าคุณจะรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ และออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอยู่เสมอ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ อดนอน หรือนอนต่ำกว่า 7 ชั่วโมงต่อวันติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน สิ่งดี ๆ ที่คุณได้ทำไว้จะสูญเปล่าทั้งหมด เพราะการนอนถือว่าเป็นปัจจัยที่ผู้รักสุขภาพควรให้ความสำคัญเป็นอันดับ 1 เหนือสิ่งใด ๆ

โดยงานวิจัยของสมาคมเวชศาสตร์การนอนหลับของสหรัฐอเมริกาก็ได้เผยว่า สังคมปัจจุบันเป็นสังคมของคนที่ชอบ อดนอน ผู้ใหญ่เกือบ 1 ใน 3 โดยเฉลี่ยนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงที่สุดท้ายแล้วจะส่งผลต่อสุขภาพทั้งกายและจิตใจของคุณโดยตรง 

ดังนั้นบทความนี้ NBA Sportmanagement จะมาอธิบายถึงข้อเสียของ การอดนอน เพื่อเป็นเครื่องย้ำเตือนให้คุณนอนหลับให้เพียงพอเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณในอนาคต มาเริ่มกันเลย

ข้อเสียของ การอดนอน ที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคุณ

ทำให้อ้วนได้ง่าย อ้วนได้ไว

ถ้าคุณเป็นคนที่กินเยอะและไม่ค่อยขยับตัวออกกำลังกาย การอดนอน จะยิ่งเป็นปัจจัยที่เข้าไปเพิ่มโอกาสที่จะทำให้คุณเป็นโรคอ้วนอย่างรวดเร็ว

สาเหตุเป็นเพราะว่าการนอนมีผลในการควบคุมฮอร์โมนสำคัญที่ชื่อว่า เลปติน ฮอร์โมนที่ทำให้เราอิ่มไวขึ้น และ เกรลิน ฮอร์โมนที่ทำให้หิว ซึ่งถ้าคุณอดนอน นอนน้อย สมองจะสั่งการให้ลดระดับของฮอร์โมนเลปตินลง และไปเพิ่มให้กับฮอร์โมนเกรลินจนทำให้เราหิว อยากกินอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา 

ภาพจาก huffpost

สังเกตง่าย ๆ คือคนส่วนมากจะรู้สึกอยากกินขนม ของจุบจิบตอนกลางคืนอยู่เสมอ และสามารถกินได้เรื่อย ๆ ในปริมาณมาก ๆ ซึ่งก็จะทำให้ปริมาณแคลอรีในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นเกินความต้องการจนเป็นไขมันสะสมในร่างกายในที่สุด 

ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ไม่เต็มที่

การอดนอน ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตของคุณไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถ้าคุณฝืนออกกำลังกายก็ยิ่งจะทำให้คุณเหนื่อยสะสมจนเกิดผลร้ายมากกว่าผลดี ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะว่าระบบไหลเวียนโลหิตนั้นเป็นระบบสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพโดยรวมของร่างกาย โดยเฉพาะส่วนของเส้นเลือดและหัวใจที่มีผลต่อการออกกำลังกายหนัก ๆ ต่อเนื่องอย่าง การคาร์ดิโอ โดยตรง

ถ้าคุณอดนอนต่อเนื่องก็จะทำให้คุณมีโอกาสเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียนโลหิตได้สูง เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ, โรคความดันโลหิตสูง, โรคลิ้นหัวใจรั่ว ฯลฯ โรคเหล่านี้ถ้าปล่อยเอาไว้เรื้อรัง อาจมีผลถึงชีวิตได้ ซึ่งปัจจัยหลักในการหลีกเลี่ยงนั่นก็คือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวันนั่นเอง

เพิ่มโอกาสเป็นโรคเบาหวานหลายเท่า

การอดนอน จะทำให้ตับคุณทำงานหนักขึ้น เพราะต้องผลิตฮอร์โมน อินซูลิน ออกมามากขึ้น ที่จะช่วยดูแลการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต,ไขมัน และรักษาระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด โดยระยะแรกคุณจะพบกับปัญหาไขมันมาสะสมที่หน้าท้องเยอะขึ้น, และรู้สึกว่าร่างกายไม่ค่อยมีพลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ 

ภาพจาก healthline

แต่ถ้าคุณอดนอนเป็นระยะเวลานาน ๆ ตับคุณจะเสื่อมสภาพอย่างสิ้นเชิง และจะพัฒนากลายเป็นสภาวะที่เรียกว่า สภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance) ทำให้เพิ่มโอกาสเป็นโรคเบาหวานได้หลายเท่า ซึ่งโรคเบาหวานเป็นโรคที่อันตราย มีข้อเสียมากมาย เช่น ติดเชื้อโรคง่าย, ตาบอด, เป็นแผลแล้วฟื้นฟูยาก และกรณีที่แย่ที่สุดคือการต้องผ่าตัดอวัยวะส่วนที่ชาจนเลือดไปเลี้ยงไม่พอออกไป (นิ้วมือ, ขา)

ทำลายผลดีของการออกกำลังกาย

การอดนอน จะเข้าไปทำลายระบบการสร้าง โกรทฮอร์โมน (Growth Hormones) ที่เป็นหนึ่งในฮอร์โมนที่สำคัญที่สุดในการส่งเสริมพัฒนาการเจริญเติบโตของร่างกายหลังจากคุณออกกำลังกายมาอย่างหนัก ซึ่งนอกจากระดับของโกรทฮอร์โมนในร่างกายที่จะลดลงทุก 14% ทุก ๆ 10 ปีแล้ว ถ้าคุณยิ่งอดนอน ก็ยิ่งจะทำให้ปริมาณลดลงรวดเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

ข้อเสียของการที่ร่างกายคุณมีโกรทฮอร์โมนน้อยลงคือ คุณจะสร้างกล้ามเนื้อได้ยากขึ้น, ลดน้ำหนักได้ยาก, เกิดความเครียดได้ง่าย, ผิวไม่กระชับ เหี่ยวย่น, ออกกำลังกายได้น้อยลง และสุดท้ายคือเพิ่มความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนได้ในทุกช่วงอายุ

ทั้งนี้ โกรทฮอร์โมนนั้นเป็นเพียงแค่หนึ่งในฮอร์โมนที่ช่วยเหลือในการออกกำลังกายเท่านั้น หากคุณอยากรู้ว่าฮอร์โมนใดบ้างที่ทำให้ร่างกายของคุณมีพัฒนาการ, ช่วยเพิ่มพูนระบบประสาทและสมอง คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

เพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุในแต่ละวัน

สถาบันสมาคมส่งเสริมการนอนหลับระดับชาติได้เผยว่า บุคคลที่นอนหลับน้อยกว่า 6 ชั่วโมงมีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์มากกว่าคนที่นอนหลับเต็มที่ถึง 3 เท่า เนื่องจากคุณอาจจะเกิดภาวะหลับใน (Microsleep) ที่ทำให้หมดสติจนควบคุมรถยนต์ไม่ได้

ภาพจาก discovermagazine

สาเหตุเป็นเพราะว่า การอดนอน จะทำให้ระบบประสาทส่วนกลางที่เป็นสื่อในการควบคุมร่างกายโดยรวมทำงานช้าลง รวมถึงทำให้สมองล้า สั่งการไม่ทัน ดังนั้นเมื่อสองปัจจัยนี้มารวมกัน จะทำให้คุณไม่สามารถตั้งสมาธิทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้, จดจำข้อมูลได้ยาก รวมถึงมีแนวโน้มที่อยากจะนอนหลับพักผ่อนมากกว่าการทำกิจกรรมอื่น ๆ

ทำให้เกิดอาการทางจิต

การนอนหลับไม่เพียงพอมีผลเสียแก่จิตใจจนอาจทำให้กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น การไม่สามารถจดจ่อใช้สมาธิได้, รู้สึกหุนหันพลันแล่น อดทนได้น้อยลง, อารมณ์แปรปรวน, ลดความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงทำให้ตัดสินใจสิ่งต่าง ๆ ได้ยากขึ้น

และเมื่อคุณอดนอนต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการทางจิตได้ ดังนี้

  • เห็นภาพหลอน (Hallucination)
  • อารมณ์แปรปรวน (Bipolar)
  • เกิดอาการวิตกกังวล (Anxiety)
  • โรคซึมเศร้า (Depression)
  • หวาดระแวง (Paranoia)
  • เกิดความคิดอยากฆ่าตัวตาย (Suicidal Thoughts)

อีกหนึ่งวิธีช่วยเหลือ ลดโอกาสเกิดอาการทางจิตนั่นคือ การเดิน ซึ่งหลายคนอาจไม่ทราบว่าการเดินมีผลพัฒนาจิตใจคุณได้เป็นอย่างมาก รวมถึงเป็นวิธีการออกกำลังกายขั้นพื้นฐานที่ทำได้ง่ายที่สุด หากคุณสนใจอยากเดิน ลองมาอ่าน บทความเกี่ยวกับการเดิน ที่เราได้จัดทำเอาไว้ได้เลย

สูตรการนอนที่เหมาะสมของแต่ละวัย

เมื่อคนเรานอนหลับเต็มอิ่ม ร่างกายก็สดใสพร้อมรับวันใหม่ ดังนั้นสถาบันสมาคมส่งเสริมการนอนหลับระดับชาติจึงได้จัดทำงานวิจัยเพื่อสังเกตว่าในแต่ละช่วงวัยเราควรจะนอนกี่ชั่วโมงถึงจะดีที่สุดต่อร่างกาย ซึ่งใช้เวลาวิจัย 2 ปีเต็มจนได้ผลลัพธ์ดังนี้

  • ผู้ใหญ่อายุ 65 ปีขึ้นไป: 7-8 ชั่วโมง
  • ผู้ใหญ่อายุ 26 ถึง 64 ปี: 7-9 ชั่วโมง
  • วัยรุ่นอายุ 18 ถึง 25 ปี: 7-9 ชั่วโมง
  • วัยเด็กอายุ 14-17 ปี: 8-10 ชั่วโมง
  • วัยเด็กประถมอายุ 6-13 ปี: 9-11 ชั่วโมง
  • วัยเด็กอนุบาลอายุ 3-5 ปี: 10-13 ชั่วโมง
  • วัยเด็กอายุ 1-2 ปี: 11-14 ชั่วโมง
  • วัยเด็กทารกอายุ 4-11 เดือน: 12-15 ชั่วโมง
  • วัยเด็กหลังคลอดอายุ 0-3 เดือน: 14-17 ชั่วโมง

Dr. Drerup แพทย์ผู้วิจัยยังได้เสริมว่ากรรมพันธุ์, พฤติกรรมและสภาพแวดล้อมก็มีผลต่อจำนวนชั่วโมงการนอนหลับที่บุคคลนั้นต้องการ ยกตัวอย่างเช่น การรับประทานกาเฟอีนมากเกินไป, สภาวะเสียงรบกวนขณะนอนหลับ, น้ำหนักของร่างกาย ฯลฯ ซึ่งแต่ละคนก็จำเป็นต้องสังเกตตัวเองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนให้เพียงพอในแต่ละวัน นั่นคืออย่างน้อย 7 ชั่วโมง

สรุป

การอดนอนเป็นพฤติกรรมที่มีผลร้ายต่อร่างกายและจิตใจ ยิ่งอดนอนมากก็ยิ่งทำให้การออกกำลังกายทั้งหมดสูญเปล่า และมีโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรงเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงที่ดีที่สุดคือการจัดสรรเวลานอนที่มีคุณภาพขั้นต่ำ 7 ชั่วโมงต่อวัน เพียงเท่านี้เรารับรองได้เลยว่าชีวิตคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

นอกจากการนอนหลับให้เพียงพอแล้ว การออกกำลังกายที่มีคุณภาพ ก็สามารถพัฒนาร่างกายคุณให้แจ่มใส มีพลังงานเพียงพอพร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวัน ซึ่งหนึ่งในเทรนด์การออกกำลังกายที่มาแรงในขณะนี้ก็คือ การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า ที่นอกจากจะช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรีแล้ว ยังช่วยกระชับหุ่นให้ดูดีสวยงามอีกด้วย 

หากคุณยังไม่ได้เป็นเจ้าของลู่วิ่งไฟฟ้า ภายในบทความนี้เราขอแนะนำลู่วิ่งไฟฟ้าที่เหมาะสมกับ Home Gym มากที่สุดกับ

Maxnum Home Plus TD151

Maxnum Home Plus TD151 ลู่วิ่งไฟฟ้าคุณภาพเกรดยุโรป ใช้งานได้เหมาะสมในบ้าน มีสเปคมากมายอัดแน่นอยู่ภายใน แต่มีราคาสุดคุ้มสบายกระเป๋า เพียง 29,990 บาท เท่านั้น นับว่าเป็นรุ่นยอดฮิตที่สามารถลงทุนเพื่อเปิด Home Gym ได้คุ้มค่ามากที่สุด สเปคมีดังนี้

- มอเตอร์ DC เกรดฟิตเนส ความเร็วสูงสุด 4 HP 

- ปรับระดับความเร็วสูงสุด 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง

- ปรับระดับความชันได้ 20 ระดับ

- ขนาดสายพานกว้างถึง 50 x 148 ซม.

- รองรับน้ำหนักผู้ใช้สูงสุด 150 กิโลกรัม

- โปรแกรมออกกำลังกายกว่า 12 โปรแกรม

- หน้าจอแสดงผล LCD มีระบบวัดไขมันในร่างกาย

อย่ารอช้า สั่งซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum Home Plus TD151 สุดคุ้มได้เลย ตอนนี้ ก่อนของจะหมด!

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!