ธุรกิจฟิตเนสมีข้อดีอะไรบ้าง คุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่ ? ฉบับปี 2022

ถ้ามองย้อนกลับไปในปีที่ผ่าน ๆ มา เราจะพบได้ว่าในช่วงยุคที่ไวรัส Covid-19 ได้ระบาด เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากที่สุด และอยากจะเริ่มออกกำลังกายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพของตัวเอง แต่สถานการณ์ของผู้ประกอบการนั้นแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เพราะต้องพบเจอกับความยากลำบากในการปรับตัวเพื่อการดำเนินธุรกิจให้อยู่รอดให้ได้เมื่อถูกสั่งปิดชั่วคราวจากมาตรการระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)

ซึ่งในขณะนี้ ถึงแม้ว่าสถานการณ์ไวรัส Covid-19 ยังไม่ได้ดีขึ้นมาก แต่ทางรัฐบาลก็ได้คลี่คลายมาตรการหลาย ๆ ประการลง ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ ซึ่งหนึ่งในการลงทุนที่น่าสนใจและมีศักยภาพที่สามารถเติบโตได้ในอนาคต นั่นก็คือ ธุรกิจฟิตเนส นั่นเอง

โดยวันนี้ NBA Sportmanagement จะมาชี้ทิศทางการเติบโตของธุรกิจฟิตเนสว่าในอนาคตจะมีแนวโน้มการเติบโตอย่างไร และจะมาอธิบายถึงข้อดีของการทำธุรกิจฟิตเนสในปี 2022 ว่าจะมีความคุ้มค่าในการลงทุนขนาดไหน มาติดตามกันได้เลย

ทิศทางการเติบโตของธุรกิจฟิตเนสในปี 2022

จากสถิติของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้พบว่า ธุรกิจฟิตเนสตั้งแต่ปี 2019 จนปัจจุบัน มีมูลค่าของธุรกิจเกิน 10,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะ เติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งยังเป็นปีทองของ ‘ธุรกิจชุดกีฬา’ และ ‘อุปกรณ์กีฬาภายในบ้าน’ ที่มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เหตุผลหลักนั้นมาจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไปหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 

การมองหา ทำเล สำหรับธุรกิจฟิตเนสนั้นก็ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ จากเดิมที่สามารถตั้งทำเลได้ยืดหยุ่น ตอนนี้ก็ถูกจำกัดพื้นที่ลงมาให้อยู่ภายในบริเวณใกล้เคียงกับสถานีรถไฟฟ้า BTS หรือสถานที่ต่าง ๆ ที่มีโอกาสในการเติบโต, ขยาย และพัฒนาพื้นที่ได้ในอนาคต 

โดยจากสถิติแล้วธุรกิจฟิตเนสส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร (41.67%) ตามมาด้วยภาคใต้ (21.32%) เนื่องด้วยเหตุผลความหนาแน่นของประชากร และเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อ รวมถึงมีนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริโภค

อีกทั้งยังมีการนำ เทคโนโลยี มาปรับใช้ร่วมกับธุรกิจฟิตเนสเพื่อตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ โดยสถิติได้พบว่า ผู้ที่สมัครสมาชิกฟิตเนสรายเดือนและรายปีส่วนใหญ่ในยุค Covid-19 จะเป็นคนใน Gen Y, Millennial และ Gen Z ถึง 50% ทำให้ฟิตเนสแบบเดิม ๆ ที่เน้นแต่ช่องทาง Offline นั้นอาจจะไม่สามารถทำเงินให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกต่อไป

ดังนั้นแล้ว ธุรกิจฟิตเนสในปี 2022 นี้จึงมีการปรับตัว และนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อร่วมส่งเสริมประสบการณ์ของผู้ใช้งาน โดยตัวอย่างของเทคโนโลยีจะมีดังนี้

• อุปกรณ์สวมใส่ที่ตรวจจับสถิติการออกกำลังกายได้แม่นยำ และมีข้อมูลหลากหลายกว่าเดิม
• คอร์สออกกำลังกายออนไลน์ สามารถออกกำลังกายตามเทรนเนอร์ได้จากที่บ้าน เช่น โปรแกรมการฝึกฝนเวทเทรนนิ่งแบบ 1:1 ผ่าน Zoom, Google Meet
• เครื่องออกกำลังกายมีฟีเจอร์ความบันเทิงใหม่ ๆ เช่น หน้าจอสำหรับดู YouTube, Netflix, Disney+ หรือฟังเพลง และสามารถเชื่อมต่อได้โดยตรงกับสมาร์ทโฟนของผู้ใช้งาน
• นำเกมมาเพิ่มประสบการณ์การออกกำลังกาย เช่น Ring Fit Adventure, Fitness Boxing, Just Dance
• Live Streaming Session การออกกำลังกายผ่าน Social Media
• แอปพลิเคชันเสริมไลฟ์สไตล์การออกกำลังกาย ได้รางวัลเป็นเหรียญคริปโทฯ เช่น Wirtual

หากเรามองอีกด้าน การระบาดของไวรัส Covid-19 นั้นก็เป็น โอกาสทอง สำหรับนักลงทุนในธุรกิจฟิตเนสรายใหม่ทุกคน เพราะด้วยบทเรียนของธุรกิจฟิตเนสทุกระดับ ทำให้มีข้อมูลมากพอที่จะนำมาใช้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการลงทุนของเราได้เป็นอย่างดี

ข้อดีของการลงทุนธุรกิจฟิตเนสในปี 2022

เป็นการลงทุนที่มีศักยภาพในอนาคต

การออกกำลังกายถือว่าเป็นไลฟ์สไตล์ที่อยู่คู่กับทุกคนมาโดยตลอด และยิ่งในปี 2022 นี้ ฟิตเนสกลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้คนให้ความสำคัญมาก เพราะความต้องการอยากจะมีสุขภาพที่ดีเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันของไวรัส Covid-19 และรวมไปถึงปัจจัยที่ทุกคนมีความต้องการอยากจะมีหุ่นดี หุ่นสวย เพื่อถ่ายรูปลงแพลตฟอร์ม Social Media ของตัวเอง ดังนั้นแล้วการออกกำลังกายและฟิตเนสจึงเป็นเทรนด์ที่จะอยู่คู่กับทุกคนต่อไปเรื่อย ๆ ไม่สิ้นสุด

‍

และหากมองถึงแนวโน้มการเติบโตของตลาดธุรกิจฟิตเนสที่ได้กล่าวเอาไว้ต้นบทความ จะพบได้ว่าการลงทุนฟิตเนสเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มีตัวเลขมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าจะเป็น Business Model ที่ถูก Disrupt จากปัจจัยต่าง ๆ มากมายในปีที่ผ่านมาก็ตาม

มีช่องทางการสร้างรายได้หลายทาง

นอกจากรายได้จากการสมัครสมาชิกรายเดือน และรายปีแล้ว ธุรกิจฟิตเนสยังมีลู่ทางในการสร้างรายได้อีกหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น

• บริการให้เช่า-ยืมอุปกรณ์ออกกำลังกาย
• ลงทุนกับ OEM เพื่อสร้าง และจัดจำหน่ายเครื่องออกกำลังกายแบรนด์ตนเอง
• ให้บริการเครื่องอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น ซาวน่า, บาร์, อาหารเสริม
• สร้างรายได้ในช่องทางออนไลน์ เช่น YouTube, Facebook, Instagram โดยการรับทำคอนเทนท์ Tie-in สินค้าต่าง ๆ 
• ร่วมงานตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เพื่อจัดจำหน่ายสินค้า
• บริการให้ความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกาย คอร์สเรียนต่าง ๆ

สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

หากธุรกิจฟิตเนสมีคุณภาพ มีการบริการที่เป็นมิตร สภาพแวดล้อมเหมาะแก่การออกกำลังกาย ผู้ใช้งานจะเป็นคนที่โฆษณาให้กับเราปากต่อปาก (Word of mouth) ซึ่งจะมีผลดีดังต่อไปนี้

• ภาพลักษณ์ของธุรกิจดีขึ้น
• ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
• มีผู้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น
• มี Loyal Customer มากขึ้น

ซึ่งหากแบรนด์แข็งแรง มีฐานลูกค้าเยอะ อาจกลายมาเป็นแบรนด์ที่ติดตลาด มีชื่อเสียงและทำกำไรได้ในระยะยาว

โดยมีงานวิจัยจาก Zendesk ได้พบว่าผู้ใช้บริการถึง 75% จะกลับมาใช้บริการธุรกิจที่มีบริการยอดเยี่ยม และ 56% จะแนะนำครอบครัว และเพื่อนให้มาใช้บริการ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดของการใช้บริการนั่นก็คือความประทับใจแรก และความสะดวกสบายในการมาใช้บริการ

ลงทุนไม่ยาก ครั้งเดียวจบ

ฟิตเนสเป็นธุรกิจที่มีข้อมูลให้ศึกษาก่อนลงทุนอยู่หลายช่องทางทั้ง Online และ Offline เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและตอบทุกคำถามก่อนลงมือจริง อีกทั้งเป็นธุรกิจที่ลงทุนเพียงครั้งเดียว จากนั้นก็สามารถทำกำไรได้ในระยะยาว 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณลงทุนกับเครื่องออกกำลังกายที่มีมาตรฐานการรับประกันที่ครบครัน, เครื่องออกกำลังกายมีความทนทาน, ใช้งานได้นาน, มีบริการหลังการขายที่ดี, จัดส่งติดตั้งถึงที่ และมีอะไหล่สำรองสำหรับการซ่อมแซมอยู่เสมอ ซึ่งการพิจารณาปัจจัยส่วนนี้ล่วงหน้าก่อน ก็จะส่งผลให้ดูแลธุรกิจได้ง่ายขึ้นมากในระยะยาว

เป็นการลงทุนที่มี Work Life Balance 

การทำธุรกิจฟิตเนสไม่จำเป็นว่าเจ้าของจะต้องอยู่ควบคุมตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถจ้างบุคลากรเพื่อให้พวกเขาดูแลธุรกิจแทนได้ และยิ่งบุคลากรมีคุณภาพก็ยิ่งลดทอนภาระหน้าที่ได้เป็นอย่างมาก เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มอบ Work Life Balance ให้กับเจ้าของธุรกิจได้ไม่น้อย

เป็นการลงทุนที่ยืดหยุ่น ปรับปรุงได้หลายแบบ

การปรับตัวของธุรกิจฟิตเนสในปีที่ผ่าน ๆ มาทำให้หลาย ๆ คนได้ทราบถึงช่องทางในการพัฒนา ต่อยอดได้มากมาย จากฟิตเนสที่เป็นแบบ Offline ก็ได้นำเทคโนโลยีมาเสริมกลายมาเป็น Online เกือบเต็มรูปแบบ เช่น โปรแกรมการออกกำลังกาย, การสอนออกกำลังกายแบบตัวต่อตัวผ่าน Video Call หรือแม้กระทั่งการนำ IoT มาร่วมกับการฝึกฝนการออกกำลังกาย เช่น Carbon’s Trainer กระจกอัจฉริยะ (Smart Mirror) ที่ผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับ Motion Tracking เพื่อเป็นตัวช่วยในการวัดฟอร์มการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการเวทเทรนนิ่งที่จะต้องเน้นฟอร์มให้ถูกต้อง

อีกทั้งยังมีการพัฒนาการออกกำลังกายให้เข้ากับสังคมที่เร่งรีบ ทำให้เกิดรูปแบบการออกกำลังกาย Shortened Workouts ที่จะเป็นโปรแกรมการออกกำลังกายแบบเร่งด่วน สำหรับผู้ที่อยากออกกำลังกายแต่ไม่มีเวลาเพียงพอในชีวิตประจำวัน

มากไปกว่านั้นสถานที่ ทำเลต่าง ๆ ก็ถูกพัฒนาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป เช่น การเปิดฟิตเนสไม่จำเป็นจะต้องเป็นสถานที่ใหญ่ ๆ อีกต่อไป อาจจะเป็นฟิตเนสขนาดเล็ก เพื่อสามารถตั้งทำเลอยู่บริเวณใกล้เคียงบริการขนส่งสาธารณะได้

โดยรูปแบบการทำธุรกิจฟิตเนสออนไลน์นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ หากมองย้อนกลับไป 30 ปีก่อนก็จะพบว่าธุรกิจฟิตเนสเจ้าดังหลายเจ้าก็จะมีการทำวีดีโอประกอบการฝึกฝนการออกกำลังกายอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่ากับปัจจุบัน เพราะขณะนั้นยังไม่มีการให้บริการ Internet ประกอบกับต้องเช่า-ยืมวิดีโอ ที่มีความยุ่งยาก และมีเวลารับชมที่จำกัด ดังนั้นแล้ว การประกอบธุรกิจฟิตเนสในปัจจุบันจึงมีพัฒนาการ และความเป็นไปได้สูง เป็นโอกาสทองของทุกคนที่อยากจะลงทุน

เริ่มลงทุนธุรกิจฟิตเนสได้อย่างมีคุณภาพ ด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายเกรดฟิตเนสชั้นนำจาก NBA

เนื้อหาที่เราได้นำมาให้ในวันนี้ หวังว่าจะเป็นข้อมูลสำหรับผู้ประกอบการทุกคนที่มีความต้องการอยากจะลงทุนในธุรกิจฟิตเนส ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้า และสถานการณ์ตอนนี้ได้มากที่สุด

สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่อยากจะเริ่มต้นการทำธุรกิจฟิตเนส สามารถเลือกซื้อเครื่องออกกำลังกายจากแบรนด์ NBA ที่จัดจำหน่ายอุปกรณ์ออกกำลังกายคุณภาพสูง เกรดฟิตเนสชั้นนำ พร้อมบริการหลังการขายอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม โดยมีการรับประกันอุปกรณ์ 1 ปี, ตรวจเช็กคุณภาพทุก 4 เดือน, บริการจัดส่ง ติดตั้ง และซ่อมแซมให้ถึงที่ 

หากสนใจสามารถสั่งซื้อได้เลย ที่นี่ หรือบน Shopee,Lazada