ในปัจจุบันการออกกำลังกายในชีวิตประจำวันของเราทุกคน มักจะโฟกัสอยู่เพียงแค่การออกกำลังกายสำหรับการลดความอ้วน กระชับสัดส่วน และเสริมสร้างกล้ามเนื้อเพื่อต้องการหุ่นที่ดีเท่านั้น
จนหลายคนลืมไปว่าการฝึกปอดก็มีส่วนสำคัญต่อร่างกายเหมือนกัน เพราะทำให้เราสามารถออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นส่วนสำคัญโดยตรงที่จะช่วยทำให้อัตราการรับออกซิเจน และการหายใจดีขึ้นอย่างชัดเจน เรียกได้ว่าคุณจะเหนื่อยน้อยลง แต่มีกำลังมากขึ้น ออกกำลังกายได้นานขึ้น
ในบทความนี้เราจึงนำเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณได้ฝึกบริหารปอด เพื่อเพิ่มอัตราการรับออกซิเจนให้กับร่างกายมาไว้ให้คุณแล้ว
เพราะปอดเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่สำคัญต่อร่างกายคนเราเป็นอย่างมาก โดยมีการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รับเอาออกซิเจนมาเป็นพลังงานให้กับร่างกาย และขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นของเสียออกไปผ่านการหายใจเข้าและออก
ซึ่งต้องอาศัยการทำงานของกล้ามเนื้อกระบังลม กล้ามเนื้อซี่โครง กล้ามเนื้อทรวงอก และกล้ามเนื้อช่องท้อง
โดยหลักการทำงานของปอดที่หลายคนอาจยังไม่รู้นั้นก็คือ ปกติแล้วความจุของปอดมนุษย์เรานั้นจะมีขนาดที่เล็กลงทุกปี
หากดูจากภาพแล้วเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า อัตราการเต้นของหัวใจของผู้ชายและผู้หญิงของแต่ละในช่วงอายุนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงนิดเดียว หรือยังอยู่ในระดับเดิม
แต่สิ่งที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือความจุของปอดของแต่ละช่วงอายุ ที่ค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ (แต่ละคนจะมีความจุปอดที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ เพศ, สภาพร่างกาย, อายุ และโรคที่เกี่ยวกับปอดด้วย)
ซึ่งสิ่งนี้แหละจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราทุกคนจึงต้องให้ความสำคัญกับการบริหารปอด สร้างภูมิคุ้มกัน แถมยังช่วยส่งผลให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้อย่างปกติ ผ่อนคลายความเครียด และลดการคั่งค้างของเสียที่อาจนำไปสู่การเจ็บป่วยได้อีกด้วย
เอาล่ะหลังจากที่คุณรู้แล้วว่าทำไมการฝึกบริหารปอดถึงเป็นเรื่องสำคัญกับร่างกาย ทีนี้เรามาเริ่มฝึกบริหารปอดด้วยวิธีที่ถูกต้องกัน
ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการเริ่มฝึกบริหารปอดนั้น เราขอเชิญชวนให้ทุกคนมาเช็กก่อนว่า “คุณหายใจถูกต้องหรือยัง” ลองสังเกตตัวเองดูว่า “เมื่อหายใจเข้า ท้องควรยุบหรือป่อง” เพราะหลายคนมักเข้าใจว่า การหายใจที่ถูกต้อง “ท้องต้องยุบและอกต้องยกขึ้นตอนหายใจเข้า”
ซึ่งต้องบอกว่าเป็นความเข้าใจที่ผิด จริง ๆ แล้ว ขณะหายใจเข้า “ท้องต้องป่องและซี่โครงต้องบานออก” เกิดจากการหดตัวกล้ามเนื้อกระบังลม ดังนั้น ท่าที่คุณควรนำไปฝึกบริหารปอดให้แข็งแรง ควรคำนึงถึงปัจจัยที่สำคัญ ดังนี้
ฝึกสูดลมหายใจให้เต็มที่อยู่สม่ำเสมอ ซึ่งคุณสามารถฝึกการหายใจโดยใช้กล้ามเนื้อกระบังลมได้ทั้งการยืน นั่ง หรือนอน ด้วยการวางมือบริเวณหน้าท้องแล้วกำหนดลมหายใจ หายใจเข้าทางจมูก-ท้องป่อง หายใจออกเป่าปากออกยาว ๆ จนท้องแฟบลง
เพียงแค่ฝึกด้วยวิธีง่าย ๆ เพียงเท่านี้จากอิริยาบถต่าง ๆ ที่คุณถนัดก็ถือว่าเป็นการฝึกบริหารปอด และช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้นแล้ว เพียงแค่ต้องหมั่นทำอยู่สม่ำเสมอ
2. อบความร้อน
การอบความร้อนในห้องซาวน่า การสตรีมหรือแม้แต่การแช่ในน้ำร้อน จะช่วยให้เลือดในร่างกายของคุณหมุนเวียนได้ดีขึ้น และยังช่วยส่งผ่านออกซิเจนในเลือดส่วนต่าง ๆ ได้ง่าย ทำให้เส้นหลอดเลือดและเส้นเลือดฝอยบริเวณผิวขยายตัว ที่สำคัญยังมีส่วนให้กล้ามเนื้อและการหายใจผ่อนคลายมากขึ้นอีกด้วย
3. ฝึกกลั้นหายใจหรือฝึกดำน้ำ
เพราะการที่เรากลั้นหายใจตอนที่ใบหน้าสัมผัสในน้ำ จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจลดลง เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการกลั้นหายใจและอยู่ในน้ำได้ ปอดจะทำงานหนักกว่าเดิม ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการฝึกขยายปอดให้แข็งแรงขึ้นที่ดีเช่นเดียวกัน
4. ออกกำลังกายเป็นประจำ
หมั่นออกกำลังกายให้ได้ 3 ครั้ง/สัปดาห์ อย่างน้อยครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที ทั้งการยกเวทและคาร์ดิโอ เพราะการยกเวทจะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อและเสริมสร้างร่างกายของคุณให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนคาร์ดิโอนั้นจะช่วยกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจ ให้ระบบในร่างกายส่วนต่าง ๆ ทำงานได้เป็นอย่างดีมากขึ้น ที่สำคัญคือถ้าคุณออกกำลังกายอย่างเข้มข้นและสม่ำเสมอ จะช่วยให้ร่างกายเพิ่มปริมาณออกซิเจนได้มากขึ้น รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขณะที่เสียเหงื่อ ทำให้คุณไม่เหนื่อยเปล่าอย่างแน่นอน
และนี่ก็คือเทคนิคที่เรายกตัวอย่างมาเพียงบางส่วนเท่านั้น ที่จะช่วยให้ปอดของคุณได้รับออกซิเจนมากขึ้น จริง ๆ แล้วยังมีอีกหลายเทคนิคมากมาย แต่เราเพียงยกตัวอย่างจากสิ่งรอบตัวง่าย ๆ เพื่อให้คุณปฏิบัติได้อย่างสะดวก
เพราะการหายใจมีผลอย่างมากต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และส่งผลดีต่อการออกกำลังกาย หากฝึกไว้ จะทำให้ร่างกายของคุณแข็งแกร่งขึ้นสามารถออกกำลังกายได้สะดวกและยาวนานขึ้นแน่นอน
ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ