วิธีดูแลลู่วิ่งไฟฟ้าของคุณให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น

เครื่องออกกำลังกายทุกชนิดล้วนต้องถูกใช้งานซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนมีชิ้นส่วนเสียหายหรือชำรุดเกิดขึ้น ซึ่งลู่วิ่งไฟฟ้าที่เป็นอุปกรณ์สุดฮิตที่สุด และไม่ว่าจะซื้อมาด้วยราคาเท่าไหร่ ลู่วิ่งก็จัดว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่ต้องได้รับการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง

เพราะเมื่อคุณใช้งานมาสักระยะหนึ่งแล้ว ในเวลาที่เครื่องมีปัญหา ด้วยราคาที่ซื้อมาค่อนข้างแพง บวกกับสินค้าที่ต้องนำเข้า หรือแม้แต่ในกรณีที่สินค้าหมดอายุประกันการซ่อมบำรุงไปแล้วด้วย สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณเสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย หรืออาจถึงขั้นต้องซื้อเครื่องใหม่เลยก็ได้

ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณควรจะถนอมอุปกรณ์ของคุณด้วยวิธีง่าย ๆ ที่สามารถเริ่มต้นทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งในบทความนี้เรารวบรวมมาให้คุณแล้ว

ถนอมบำรุงลู่วิ่งไฟฟ้าของคุณให้ใช้งานได้นานขึ้น สามารถทำเองได้ง่าย ๆ ดังนี้

บางครั้งการรับประกันสินค้าของร้านค้าที่คุณได้ซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามา อาจทำให้คุณต้องละเลยการดูแลถนอมอุปกรณ์เหล่านี้ไป เราจึงอยากมาย้ำเตือนและบอก 4 วิธีที่คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เพราะการดูแลลู่วิ่งไฟฟ้านั้นไม่ใช่เรื่องยากและจุกจิกแบบที่คุณคิด เพียงแค่คุณทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ก็สามารถยืดระยะการใช้งานออกไปได้นานขึ้นแล้วล่ะครับ

  • หมั่นทำความสะอาดตัวเครื่องของลู่วิ่งไฟฟ้า
ASSUMPTION COLLEGE SAMUTPRAKARN
ภาพจาก Assumption

เริ่มต้นง่าย ๆ จากการเช็ดอุปกรณ์ภายนอกอยู่บ่อย ๆ ด้วยการนำผ้าชุบน้ำเช็ด หรือใช้สเปรย์ทำความสะอาดฉีดชำระล้างก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นแผงควบคุมหน้าจอ ราวจับ และมุมอื่น ๆ ของตัวเครื่อง ซึ่งไม่ควรปล่อยให้ฝุ่น หรือคราบเหงื่อของการออกกำลังกายสะสมเป็นเวลานาน เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและส่งผลต่อการใช้งานของอุปกรณ์ในภายหลังได้

หากเป็นลู่วิ่งไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ในบ้าน แล้วไม่ได้มีช่างคอยตามเช็คอุปกรณ์ให้บ่อย ๆ คุณอาจใช้วิธีเปิดฝาครอบแผงไฟฟ้ามอเตอร์ เพื่อทำการดูดฝุ่นที่เกาะอยู่ภายในด้วยตัวเองได้เช่นกัน แต่ข้อควรระวังก็คือ ควรปิดระบบไฟฟ้า หรือถอดปลั๊กให้เรียบร้อยก่อนทำความสะอาดด้วย

คำแนะนำเพิ่มเติม : การเช็ดทำความสะอาดนั้นควรใช้เป็นผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ หรือใช้สเปรย์ทำความสะอาด (ที่ไม่ทำลายพื้นผิว) พ่นบาง ๆ แล้วนำผ้าเช็ดตาม ไม่ควรฉีดหรือราดน้ำยาทำความสะอาดลงไปที่อุปกรณ์โดยตรง

วิธีทำความสะอาดแผงไฟฟ้ามอเตอร์ที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้น ถึงแม้จะปิดระบบไฟฟ้าไปแล้วก็ไม่ควรนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดเด็ดขาด เพื่อป้องกันระบบไฟฟ้าที่อาจช็อตในภายหลัง ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือแปรงเล็ก ๆ เช่นพู่กัน แปรงทาสี ค่อย ๆ ปัดฝุ่นออก เพื่อความปลอดภัยและถนอมอุปกรณ์ของคุณ

  • เช็คสายพานของลู่วิ่งไฟฟ้า
When and How to Lubricate a Treadmill Belt - Optimum Fitness
ภาพจาก Optimum Fitness

เมื่อคุณใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้ามาระยะเวลาหนึ่งอาจเห็นว่าสายพานนั้นมีการคลาดเคลื่อน เอียงซ้ายขวาบ้างหรือสายพานหย่อน ซึ่งมันอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุขณะเล่นได้ โดยวิธีตรวจเช็คสายพานของลู่วิ่งนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการปิดเครื่อง และนำนิ้วมือสอดไปประมาณ 3 นิ้วเพื่อ เช็คความหย่อนตึง และหากมีปัญหาก็สามารถปรับตามคู่มือของแต่ละรุ่น

ในกรณีที่สายพานเอียงซ้ายหรือขวานั้น มีวิธีปรับสายพานโดยสามารถเปิดเครื่องให้ลู่วิ่งไฟฟ้าทำงาน แล้วนำหกเหลี่ยมปรับตามแนวซ้ายขวาของแต่ละฝั่งที่เอียง โดยใช้วิธีการปรับหมุนทีละ 1ส่วน4 ต่อรอบ เป็นการปรับจูนทีละนิดให้สายพานกลับมาตรงปกติ และต้องหมั่นหยอดซิลิโคน (น้ำยาหล่อลื่น) ทุก ๆ 2-3 เดือนอีกด้วย (ตามคู่มือและระยะการใช้งานของแต่ละรุ่น) เพื่อลดแรงเสียดทานและทำให้มอเตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คำแนะนำเพิ่มเติม : โดยปกติแล้วการหยอดน้ำยาหล่อลื่นสำหรับลู่วิ่งไฟฟ้าต้องใช้ซิลิโคนเท่านั้น หรือบางรุ่นอาจมีวิธีการใช้ที่ไม่เหมือน (ทำตามคู่มือของแต่ละรุ่น) เมื่อมีสายพานมีอาการฝืดหรือหย่อนตึง สามารถถอดสายพานตามวิธีของคู่มือแต่ละรุ่นได้ (ขอย้ำว่าต้องมีความเชี่ยวชาญเท่านั้น) เพราะต้องปรับสายพานและหยอดน้ำยาให้มีความพอดี ไม่ตึงไม่หย่อนจนเกินไป หากสายพานหมดอายุหรือฉีกขาดควรแจ้งช่างเปลี่ยนทันที

ทางที่ดีที่สุด ขอแนะนำให้เลือกร้านที่มีประกันสินค้าระยะเวลานาน และที่สำคัญคือต้องมีทีมงานคอยเข้ามาตรวจเช็คอุปกรณ์อยู่บ่อย ๆ เช่น 3-4เดือน / ครั้ง เป็นต้น เพื่อจะได้มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยดูอาการของแต่ละระยะการใช้งาน เป็นการป้องกันไม่ให้อุปกรณ์เสียหายและใช้งานได้ในระยะยาว


  • ตรวจเช็คสายไฟของลู่วิ่งไฟฟ้า


Xiaomi WalkingPad และ Irontec Runpad รีวิวเปรียบเทียบลู่เดิน
ภาพจาก PatrickLimitless

ลู่วิ่งไฟฟ้าที่ถูกใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน ระบบไฟฟ้าอาจช็อตหรือเสื่อมสภาพลงได้ ดังนั้นการตรวจเช็คสายไฟของลู่วิ่งไฟฟ้านั้นสามารถดูได้จากสายไฟที่เชื่อมต่อด้านหลังลู่วิ่งเพื่อทำการเปิดใช้งาน กับสายไฟของมอเตอร์ที่ต้องเปิดฝาครอบแผงออกมาเช็ค

วิธีง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองก็คือให้ดูว่า สายไฟของมอเตอร์และสายไฟเชื่อมต่อหลังลู่วิ่งนั้นเกิดชำรุดหรือฉีกขาดหรือไม่ ในกรณีนี้หากมีการชำรุดเกิดขึ้น ให้รีบแจ้งช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้ามาเช็คอาการและซ่อมแซมทันที 

คำแนะนำเพิ่มเติม : เพื่อให้เป็นเรื่องง่ายต่อการเปิด-ปิดเครื่อง สายไฟของอุปกรณ์ควรเสียบกับปลั๊กที่มีสวิตซ์และมีฟิวส์ตัดไฟ และต้องเป็นปลั๊กคุณภาพดี (สายไฟที่มีขนาดใหญ่และราคาสูง) แม้จะมีราคาที่สูงไปนิด แต่ส่งผลดีเรื่องความปลอดภัยของเครื่องและบ้านของคุณ ไม่ควรถอดปลั๊กบ่อย เพราะอาจทำให้ปลั๊กหลวมทำให้ไฟช็อตและมีผลเสียต่อระบบไฟฟ้าได้

อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องระวังคือ อย่าปล่อยให้สายไฟเข้าไปอยู่ใต้ลู่วิ่งไฟฟ้า เพราะอาจถูกเครื่องทับจนเสียหายได้


แนะนำลู่วิ่งไฟฟ้าราคาไม่แพง คุณภาพดี พร้อมบริการหลังการขายคุ้มค่าที่สุด



หลังจากที่คุณได้รู้ถึงวิธีการรักษาลู่วิ่งไฟฟ้าแล้ว และกำลังมองหาลู่วิ่งไฟฟ้าสักเครื่องไว้เพื่อออกกำลังกาย เราขอแนะนำลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่น Impulse IT407 ที่มาพร้อมราคาเพียง 39,900 บาทเท่านั้น ด้วยสเปคเครื่องที่เทียบเท่ากับลู่วิ่งไฟฟ้า Star Trac แบรนด์อเมริกาที่มีราคาสูงถึง 100,000 บาท

ซึ่งลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่น Impulse IT407 นั้นมีสเปคที่สูสีกันเลยทีเดียว เพราะมีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานบนหน้าจอที่พิเศษกว่ารุ่นอื่น (ในราคาระดับเดียวกัน) เช่น ปุ่ม Pause หยุดโปรแกรมวิ่ง แล้วสามารถกดรันต่อได้ (ปกติจะมีฟังก์ชันนี้อยู่ในราคาที่แพง), โปรแกรม Body Fat เบิร์นไวขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการเผาผลาญ เป็นต้น 

มากกว่านั้นยัง สามารถพับเก็บได้ 90 องศา ประหยัดพื้นที่การใช้งาน, สายพานกว้างวิ่งแล้วไม่อึดอัด ตำแหน่ง Safety มีถึง 2 จุด ตัวเครื่องมีราวจับที่ยาว เหมาะสำหรับผู้สูงอายุและทุกวัยอีกด้วย สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การบริการหลังการขายของลู่วิ่งไฟฟ้าของเจ้าตัวนี้ยังคุ้มค่าสุด ๆ 
เพราะรับประกันสินค้านานสูงสุดถึง 10 ปี มีทีมงานพร้อมส่งฟรี ติดตั้งให้ถึงบ้านคุณ เข้าไปตรวจเช็คอะไหล่ให้คุณทุก ๆ 4 เดือน ด้วยราคาและการบริการที่คุ้มค่าสุด ๆ แบบนี้รอช้าไม่ได้แล้ว คุณเองสามารถเข้าไปเลือกซื้อได้แล้วตอนนี้ที่ >>Shopee , Lazada

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!