วิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลา ฟื้นฟูได้ด้วยการออกกำลังกาย

อาการง่วงนอนตลอดเวลา เป็นอาการที่เกิดได้ทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นเวลาทำงาน เรียน หรือเวลาทำกิจกรรมอื่น ๆ ระหว่างวันอาการนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานลดลง แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหานี้ การแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องยาก เพียงคุณเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน กล้าการันตีเลยว่าภายใน 1 เดือน คุณจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

ในบทความนี้เราเลยขอรวบรวม 10 วิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลา ที่จะเข้ามาช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีและพลังงานที่เต็มเปี่ยมในทุกวัน

อาการง่วงนอนตลอดเวลา คืออะไร?

อาการง่วงนอนตลอดเวลา (Excessive Daytime Sleepiness) คือภาวะที่ร่างกายรู้สึกเหนื่อยและง่วงตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะนอนหลับเพียงพอในตอนกลางคืนหรือไม่ก็ตาม ซึ่งอาการง่วงนี้มักเกิดขึ้นโดยไม่ได้รับการควบคุม ซึ่งทำให้สมองและร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

ผู้ที่มีอาการง่วงนอนตลอดเวลาอาจพบว่าตัวเองเผลองีบหลับหลายครั้งในระหว่างวัน แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการนอนหลับ เช่น ที่ทำงานหรือในห้องเรียน หรือแม้กระทั่งตอนขับรถ สาเหตุของอาการนี้มีหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอก เช่น ความเครียด การนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ และการเผชิญกับโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกาย

วิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลา
ภาพจาก : dturnquest

อาการง่วงนอนตลอดเวลา มีสาเหตุเกิดจากอะไร?

อาการง่วงนอนตลอดเวลา เป็นปัญหาที่หลายคนเผชิญ และมักเกิดจากหลายสาเหตุเช่นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ การดำเนินชีวิต และพฤติกรรมการนอนหลับ สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอนตลอดเวลา มีด้วยกันดังนี้

  • นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ : การนอนหลับที่น้อยกว่า 7-8 ชั่วโมงต่อคืนเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด การนอนหลับที่ไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายไม่ได้รับการฟื้นฟูเต็มที่ และเมื่อเวลาผ่านไป ระบบต่าง ๆ ของร่างกายจะเริ่มทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดความอ่อนเพลียและง่วงนอนในระหว่างวัน

  • คุณภาพการนอนต่ำ : แม้ว่าจะนอนหลับครบชั่วโมง แต่หากการนอนหลับไม่มีคุณภาพ เช่น การตื่นบ่อยในตอนกลางคืน การฝันร้าย หรือการนอนหลับที่ไม่ต่อเนื่อง ก็จะส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถเข้าสู่ช่วงการนอนหลับลึก (Deep Sleep) ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองได้ดีที่สุด ส่งผลให้ง่วงนอนตลอดเวลา

  • การพักผ่อนไม่เป็นเวลา : สำหรับผู้ที่มีตารางการทำงานที่ไม่แน่นอนหรือทำงานเป็นกะ ร่างกายมักจะปรับตัวไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเวลา ทำให้การนอนหลับในช่วงเวลาที่ผิดปกติ ส่งผลต่อวงจรการนอนของร่างกาย (Circadian Rhythm) และก่อให้เกิดอาการง่วงนอนในช่วงเวลาที่ไม่ควร

  • ความเครียดและภาวะซึมเศร้า : ความเครียดเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอนตลอดเวลา เมื่อร่างกายอยู่ในสภาวะเครียดต่อเนื่อง จะส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทและฮอร์โมนที่ควบคุมการตื่นตัว การเผชิญกับภาวะซึมเศร้าก็เช่นกัน เป็นปัจจัยที่ทำให้การนอนหลับไม่ดี ส่งผลให้เกิดความรู้สึกเหนื่อยล้าในระหว่างวัน

  • พฤติกรรมการรับประทานอาหาร : การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงหรือไขมันมากเกินไปสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงแล้วลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียและง่วงนอน การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในปริมาณมาก แม้ว่าจะช่วยให้ตื่นตัวชั่วคราว แต่เมื่อน้ำตาลในเลือดลดลง จะทำให้เกิดอาการง่วงนอนในเวลาต่อมา

อาการง่วงนอนตลอดเวลา
ภาพจาก : sleepcareonline

อาการง่วงนอนตลอดเวลา ส่งผลเสียอย่างไรต่อร่างกาย ?

อาการง่วงนอนตลอดเวลาส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจ เมื่อร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ จะทำให้การทำงานของสมองคิดสิ่งต่าง ๆ ได้ช้าลง ความจำลดลง สมาธิสั้น นอกจากนี้ยังส่งผลให้ภูมิคุ้มกันลดลง ทำให้มีโอกาสป่วยได้ง่ายขึ้น ทั้งยังเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ปวดศีรษะบ่อย ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ

และอาการง่วงนอนตลอดเวลาอาจเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายในระหว่างทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันการหลับในโดยเฉพาะขณะขับรถ หรือใครที่ต้องทำงานอยู่กับเครื่องจักรตลอดเวลา หากเกิดอาการง่วงนอนตลอดเวลาก็มีความเสี่ยงที่ร่างกายจะได้รับอันตรายได้เช่นกัน จะเห็นได้เลยว่าอาการง่วงนอนตลอดเวลา ถือเป็นภัยเงียบที่คุณต้องรีบฟื้นฟูอาการให้เร็วที่สุด

10 วิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลา ที่คุณสามารถเริ่มเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ๆ

หากคุณรู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันสามารถช่วยได้ ลองเริ่มต้นจากวิธีง่าย ๆ เหล่านี้ที่จะช่วยให้คุณกลับมามีความสดชื่นและกระฉับกระเฉงตลอดทั้งวัน!

1. ออกกำลังกายด้วยการใช้ลู่วิ่งไฟฟ้า หรือการทำคาร์ดิโอ

การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการลดอาการง่วงนอนตลอดเวลา โดยเฉพาะการทำคาร์ดิโอหรือการใช้ลู่วิ่งไฟฟ้า เพราะการออกกำลังกายประเภทนี้ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดสูบฉีดไปยังสมองและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้สมองได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ทำให้คุณรู้สึกตื่นตัวและสดชื่นมากขึ้น

แนะนำให้เริ่มต้นออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน โดยสามารถทำได้ทั้งการเดินออกกำลังกาย, วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า หรือปั่นจักรยาน ทั้งนี้ การออกกำลังกายเป็นประจำไม่เพียงแต่จะช่วยลดความง่วงนอน แต่ยังช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยให้การนอนหลับในตอนกลางคืนมีคุณภาพมากขึ้นอีกด้วย

 ง่วงนอนตลอดเวลา‍
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : ประโยชน์ของการวิ่ง บนลู่วิ่งไฟฟ้าเพียง 30 นาทีต่อวันมีอะไรบ้าง

2. ปรับการนอนให้มีคุณภาพ

การนอนหลับให้เพียงพอไม่ใช่เพียงแค่จำนวนชั่วโมงเท่านั้น แต่คุณภาพของการนอนหลับก็สำคัญ ควรนอนในห้องที่มืดและเงียบ หลีกเลี่ยงการใช้สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งวัน

การขาดน้ำเป็นหนึ่งในสาเหตุของความง่วงนอน ร่างกายต้องการน้ำในการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นการดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวันจะช่วยรักษาระดับพลังงานของร่างกายได้ดีขึ้น

4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

อาหารมีบทบาทสำคัญต่อพลังงานในร่างกาย การเลือกทานอาหารที่มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และไขมันดี เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน จะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานที่คงทนและลดอาการง่วงได้

5. เดินออกจากโต๊ะทำงานเป็นระยะ ๆ

การนั่งทำงานเป็นเวลานานส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานไม่เต็มที่ การลุกขึ้นเดินเล่นเล็กน้อยหรือยืดเหยียดร่างกายทุก ๆ ชั่วโมงจะช่วยกระตุ้นร่างกายให้สดชื่นมากขึ้น และช่วยให้ร่างกายห่างไกลจากอาการออฟฟิศซินโดรมได้ด้วย

6. หลีกเลี่ยงการทานอาหารมื้อหนักในช่วงเที่ยง

หากคุณมีการรับประทานมื้อเที่ยงที่หนักเกินไป อาจทำให้ร่างกายใช้พลังงานไปกับการย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการง่วงนอนได้ในระหว่างวันได้ง่ายขึ้น แนะนำว่าในมื้อเที่ยงลองทานอาหารให้พลังงานสูงแต่มีไขมันต่ำหรืออาหารที่มีใยอาหารสูงแทน จะช่วยให้ร่างกายไม่ใช้พลังงานไปกับการย่อยอาหารเยอะในตอนเที่ยง

7. การทำสมาธิหรือการฝึกโยคะ

การฝึกสมาธิหรือโยคะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดอาการง่วงนอนตลอดเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำสมาธิช่วยให้จิตใจสงบและลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความเหนื่อยล้าระหว่างวัน นอกจากนี้ การฝึกโยคะยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนไปยังสมอง ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นขึ้น

8. ฝึกหายใจลึก ๆ เพิ่มออกซิเจนให้สมอง

การฝึกหายใจลึก ๆ เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มออกซิเจนให้สมอง ซึ่งทำให้รู้สึกสดชื่นและลดความเครียดที่ทำให้เกิดอาการง่วงได้ ลองทำท่าหายใจเข้าลึกและออกช้า ๆ เป็นเวลา 5 นาทีในระหว่างวัน

9. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป

แม้การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเช่น กาแฟ ชา จะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวได้ แต่การดื่มมากเกินไปจะทำให้ร่างกายเสพติดคาเฟอีนและส่งผลเสียในระยะยาว ลองลดปริมาณการดื่มกาแฟและเลือกดื่มน้ำเปล่าหรือชาเขียวไม่ใส่น้ำตาลแทน จะช่วยลดอาการอยากคาเฟอีนและเป็นวิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาได้

10. ใช้เวลาในช่วงเย็นเพื่อผ่อนคลาย

การผ่อนคลายร่างกายและจิตใจหลังเลิกงาน หลังเลิกเรียน หรือแม้กระทั่งช่วงก่อนนอนเป็นสิ่งสำคัญ โดยแนะนำว่าคุณอาจลองฝึกโยคะ ทำสมาธิ วิ่งจ๊อกกิ้ง หรือเข้าฟิตเนสเพื่อไปออกกำลังกาย คาร์ดิโอให้เหงื่อออกก็จะช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูจากความเครียดและเหนื่อยล้าสะสมที่เกิดขึ้นระหว่างวัน

วิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลา ทำได้จริงแน่แค่เริ่มเปลี่ยนไลฟ์สไตล์!

วิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาไม่จำเป็นต้องพึ่งยา แต่สามารถเริ่มต้นได้จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประจำวันเล็ก ๆ น้อย ๆ และลองทำตามวิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาที่เราได้แนะนำไป ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และมีพลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเต็มที่ในทุกวัน หากคุณเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ภายใน 1 เดือนคุณจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน!

มีลู่วิ่งไฟฟ้าติดบ้านไว้ คาร์ดิโอได้ทุกเวลา ช่วยแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาได้อย่างเห็นผล

หากตอนนี้คุณอยากแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลา ด้วยการเริ่มออกกำลังกาย วิ่งจ๊อกกิ้งเรียกเหงื่อช่วงเย็น เราขอแนะนำ Maxnum X8200 ลู่วิ่งไฟฟ้าคุณภาพมาตรฐานยุโรป ตอบโจทย์ได้ทุกการใช้งาน ในราคาเพียงแค่ 55,900 บาท มาพร้อมฟังก์ชันช่วยเพิ่มความปลอดภัยระหว่างการใช้งานด้วยปุ่ม Safety หยุดฉุกเฉินและฟังก์ชันวัดอัตราการเต้นของหัวใจ รวมทั้งขนาดสายพานที่กว้างพิเศษ รองรับน้ำหนักผู้ใช้ได้มากถึง 182 กก. เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการง่วงนอนตลอดเวลา ที่ต้องการฟื้นฟูอาการนี้ให้ดีขึ้น มีลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum X8200 ไว้ที่บ้าน ช่วยให้คุณสามารถวิ่งได้ทุกวัน ไม่มีเบื่อแน่นอน!

สเปคลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum X8200

สเปคลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum X8200

- มอเตอร์ไฟฟ้า AC 7 แรงม้า (พีค)

- จอ LED Dot-matrix

- วัดอัตราการเต้นหัวใจ

- ปุ่มเซฟตี้หยุดฉุกเฉิน

- ขนาดสายพาน 54.5 x 164 เซนติเมตร

- ปรับความเร็วได้สูงสุด 20 กิโลเมตร

- ปรับความชันสูงสุดได้ 15 ระดับ

- รองรับน้ำหนักผู้เล่นสูงสุด 182 กิโลกรัม

- ขนาดตัวเครื่อง 218 x 93 x 156 ซม.

แถมฟรี 3 ต่อถ้าสั่งซื้อภายในบทความนี้! จัดส่งและติดตั้งถึงที่ (กรุงเทพและปริมณฑล) ฟรี! ตรวจเช็กสภาพเครื่องทุก 4 เดือนในระยะเวลา 1 ปี และฟรี! รับประกันเครื่อง 1 ปี คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

คลิกลิงก์เพื่อสั่งซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum X8200 เลยตอนนี้ที่ NBA Sportmanagement

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!