วิธีเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า ! ข้อควรรู้เพื่อความคุ้มค่าและความเหมาะสมสำหรับคุณ

การวิ่งเป็นกีฬาที่เริ่มต้นง่ายที่สุดที่ทุกคนได้เลยสัมผัสกันตั้งแต่เด็ก ๆ และเป็นหนึ่งกีฬาที่ฮิตที่สุดในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ แถมยังเป็นชนิดกีฬารูปแบบคาร์ดิโอ ที่ช่วยการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เป็นเหตุผลที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนเริ่มหันมาวิ่งเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น

แต่ด้วยเหตุผลของแต่ละคนอาจทำให้ไม่สามารถออกไปวิ่งข้างนอกบ้านได้ เช่น ประหยัดเวลาเดินทางออกไปวิ่งข้างนอก หรือไม่อยากออกไปวิ่งในสถานที่ที่มีคนเยอะเพื่อเป็นการป้องกันตัวเองจาก Covid -19 ทำให้ผู้คนเริ่มหันมาซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายมาไว้ที่บ้านกันมากขึ้น

สำหรับใครก็ตามที่ต้องการจะซื้อลู่วิ่งสักตัวมาเพื่อออกกำลังกายในบ้านนั้น ก่อนอื่นผมอยากแนะนำว่า อย่ามองเพียงแค่ว่ามีเงินก็สามารถซื้อลู่วิ่งได้ทันที แต่กลับกันในปัจจุบันนั้นลู่วิ่งถูกผลิตขึ้นมาเยอะมาก ทำให้เรานั้นสามารถเลือกซื้อลู่วิ่งได้หลายช่องทาง ทั้งผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือตามร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนส

และเมื่อเราเข้าถึงการซื้อได้ง่ายขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องรู้ถึงระบบการทำงานของลู่วิ่งนั้นเป็นอย่างดี ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ยังรวมไปถึงในเรื่องของ ขนาด ความเร็ว การรับน้ำหนัก การดูแลหลังการขาย และอื่น ๆ เพื่อให้เงินของคุณที่ใช้จ่ายไปคุ้มค่าต่อการใช้งานที่สุด


เลือกร้านจำหน่ายลู่วิ่งอย่างไร ? เพื่อเลี่ยงปัญหาบริการด้านการขายในภายหลัง

ก่อนที่เราจะไปเริ่มดูอุปกรณ์ต่าง ๆ ของลู่วิ่ง สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเลือกร้านค้า เพราะทุกคนนั้นมีธุระส่วนตัวให้ทำหลากหลาย ทำให้ไม่สามารถไปดูลู่วิ่งด้วยตัวเองได้ จนต้องสั่งซื้อทางออนไลน์ ซึ่งทางออนไลน์นั้นก็มีลู่วิ่งเยอะแยะมากมายให้เลือก จึงทำให้หลาย ๆ ครั้งเกิดความเสี่ยงขึ้นจากการตัดสินใจที่พลาด ดังนั้นควรจะรู้วิธีการดูร้านค้าดังนี้

  • เลือกร้านที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์อย่างถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงสินค้าที่ไม่มีคุณภาพและการบริการของสินค่าที่ห่วย เพราะร้านที่เปิดชั่วคราวส่วนใหญ่จะไม่มีการจดทะเบียนการค้า
  • ควรเปรียบเทียบราคาและสเปคโดยละเอียด ร้านค้าที่ชอบตั้งราคาถูก และโฆษณาเกินจริงส่วนใหญ่ จะไม่มีบริการดูแลหลังการขาย หวังให้คนซื้อครั้งเดียวจบ จึงทำให้มีเวลามีปัญหาเราอาจจะต้องเสียค่าซ่อมมากกว่าราคาซื้อ ดังนั้นควรจะดูร้านที่น่าเชื่อถือได้ มีประกัน และบริการหลังการขายที่ชัดเจน 
  • หลีกเลี่ยงร้านที่ไม่ได้ขายผ่านเว็บหลักของตัวเอง เพราะส่วนใหญ่เป็นร้านเปิดชั่วคราว มีช่องทางขายเฉพาะ Facebook หรือ ร้านที่เป็นลักษณะเช่า สังเกตได้เลยว่าร้านเหล่านี้จะไม่มีตัวตน ติดต่อยาก ไม่มีที่อยู่ชัดเจน อาจจะเปิดกิจการเพียงชั่วคราวและไม่สามารถติดต่อได้ในภายหลัง ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก

โดยปกติผมเชื่อว่าทุกคนจะต้องดูร้านค้าให้ละเอียดอยู่แล้ว เพื่อให้เงินที่ใช้จ่ายไปได้ของที่คุ้มค่ากลับมา แต่เนื่องจากลู่วิ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่เป็นระบบไฟฟ้า ทำเกิดบางครั้งเกิดการเสียง่าย อายุการใช้งานไม่นาน เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ที่ไม่ใช้ระบบไฟฟ้า จึงต้องคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนซื้อ และดูสินค้าให้หลากหลายมากพอเพื่อเปรียบเทียบ เหตุผลทั้งหมดนี้ก็เพื่อเวลาที่เราเกิดปัญหา เราก็ไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ตามมาทีหลัง เราจึงอยากเน้นย้ำให้คุณระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการโดนหลอกและเสียเงินเกินความจำเป็น


มีวิธีดูลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างไรบ้าง ? ก่อนตัดสินใจซื้อ

การดูลู่วิ่งไฟฟ้านั้นมีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งบางอย่างนั้นอาจเป็นสิ่งที่หลายคนไม่รู้มาก่อน วันนี้เราเลยรวบรวมวิธีการดูลู่วิ่งให้ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับคุณ เพื่อความคุ้มค่าต่อราคาที่ซื้อและระยะเวลาในการใช้งาน

- มอเตอร์ของลู่วิ่งไฟฟ้า


ภาพจาก Megafitness


กำลังของมอเตอร์ลู่วิ่งนั้นมีหน่วยเป็นแรงม้า Horse Power (HP) แรงม้ายิ่งเยอะเท่าไหร่ หมายถึงลู่วิ่งจะสามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้น ทำความเร็วได้มากขึ้น และรองรับสายพานที่มีขนาดใหญ่ หรือเรียกว่ามีพื้นที่วิ่งที่มากขึ้นนั่นเอง (มอเตอร์ที่แรงม้าเยอะกว่าจึงดีกว่า) โดยลู่วิ่งที่เหมาะสมกับการใช้ในบ้านคือ มอเตอร์ 1-3 แรงม้า และเป็นมอเตอร์ชนิด DC สำหรับลู่วิ่งที่ใช้ในฟิตเนสส่วนใหญ่จะต้องใช้แรงม้าตั้งแต่ 4 แรงม้าขึ้นไปและเป็นมอเตอร์ AC 

(มอเตอร์ DC คือ มอเตอร์ลู่วิ่งสำหรับใช้ในบ้านปกติ) , (มอเตอร์ AC คือ มอเตอร์สำหรับใช้ในฟิตเนส โรงยิม หรือกับคนที่ใช้งานหนักและต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งจะดีกว่ามอเตอร์ DC ราคาก็แพงกว่าเช่นกัน) โดยข้อนี้นั้นจะสัมพันธ์กับความเร็วที่สุดของลู่วิ่งแต่ละรุ่นด้วย เพราะการวิ่งของคนเรานั้น ถ้าวิ่งบ่อย ๆ ก็จะพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเช่น เราวิ่งความเร็วประมาณนี้ได้จนคุ้นชินแล้ว แล้วอยากขยับไปอีกขั้น แต่ว่าลู่วิ่งรุ่นนี้ดันทำความเร็วได้ไม่พอกับที่ต้องการ เป็นต้น จึงต้องคำนวณให้พอเหมาะต่อจุดประสงค์ของร่างกายด้วย


- พื้นที่วิ่งและขนาดของสายพาน

ลู่วิ่งไฟฟ้า BISON มอเตอร์ 4 แรงม้า รุ่น K-1000 พร้อมส่ง! | Shopee Thailand
ภาพจาก Shopee


เรื่องนี้ก็สำคัญไม่แพ้กันเพราะ ยิ่งสายพานมีขนาดใหญ่ก็หมายความว่าเราจะวิ่งได้สบายมากขึ้น ไม่อึดอัดเวลาวิ่ง โดยหน่วยวัดจะเป็นเซนติเมตร (กว้าง x ยาว) ยิ่งกว้างมากราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นเช่นกัน พื้นที่วิ่งนั้นจะสำคัญต่อขนาดตัวของผู้ใช้ด้วย ส่วนใหญ่ผู้ซื้อก็ควรจะไปลองวิ่งด้วยตัวเอง 

หรือหากต้องการสั่งซื้อออนไลน์ ก็ควรสอบถามรายละเอียดให้ชัดเจน แต่การสั่งออนไลน์ควรระมัดระวังเรื่องความกว้างของสายพาน เพราะบางที่อาจจะรวมที่พักเท้าด้านข้างไปด้วย เลยฟังดูแล้วเหมือนจะกว้าง แต่จริง ๆ แล้วต้องจะวัดเฉพาะส่วนสายพานเท่านั้นครับ


- รับน้ำหนักของผู้ใช้

SIMPLE Approaches A Treadmill Might Help You Slim Down & Get In Shape! -  Weston MMA
ภาพจาก Weston MMA


น้ำหนักสูงสุดของลู่วิ่งแต่ละเครื่องนั้นไม่เท่ากัน เราต้องเช็คร่างกายของเรา และน้ำหนักของเครื่องที่สามารถรับได้ เพราะถ้าผู้ใช้มีน้ำหนักมากกว่าลู่วิ่งจะรับน้ำหนักไหว จะทำให้มอเตอร์และสายพานทำงานหนักกว่าที่กำหนดไว้ จนทำให้เครื่องเสียหายง่าย และไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป

ดังนั้นก่อนซื้อให้คำนึงถึงมอเตอร์ของเครื่อง น้ำหนักที่เครื่องรับได้ และน้ำหนักตัวของเรา 3 สิ่งนี้จะทำงานเชื่อมกันระหว่างการรับน้ำหนักของคุณครับ


- ระบบลดแรงกระแทก

ลู่วิ่งไฟฟ้า VEGA - ระบบรับแรงกระแทก - YouTube
ภาพจาก Mega Fitness


ลู่วิ่งแต่ละรุ่นนั้นมีระบบกระแทกแตกต่างกันไป ทั้งด้านดีไซน์และรูปร่างครับ และที่จำเป็นต้องเลือกลู่วิ่งที่รองรับแรงกระแทกได้ดี ก็เพราะการวิ่งนั้นรับแรงกระแทกจากเท้าที่กระทบกับพื้นหรือบนลู่ ระบบนี้จะมาช่วยลดเรื่องแรงกระแทกทำให้เราวิ่งได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนพื้นรองเท้าที่มีสันช่วยซับแรงกระแทกนั่นเอง


- สามารถปรับความชันได้

การเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี  คุ้มค่าราคาถูก
ภาพจาก healthcare.9dee.com


หลายคนอาจไม่รู้ว่าลู่วิ่งนั้นสามารถปรับความชันได้ (แต่ก็มีลู่วิ่งที่ไม่สามารถที่จะปรับความชันได้เช่นกัน) ซึ่งการปรับความชันของลู่วิ่งนั้นเสมือนการวิ่งขึ้นเขา ทำให้เราได้ฝึกความแข็งแรงมากขึ้น หรืออาจใช้ในกรณีที่ต้องการกระชับต้นขาและสะโพก โดยจะมีการปรับความชัน 2 แบบให้เลือกใช้งาน ดังนี้

1. ปรับความชันด้วยมือ (Manual) - ผู้ใช้จะต้องปรับความชันด้วยมือก่อนที่จะเริ่มวิ่ง เพราะไม่สามารถปรับขณะที่วิ่งได้ จึงทำให้ไม่สะดวกเท่าไหร่ โดยปกติการปรับด้วยมือสามารถปรับความชันได้ 0-5% 

2. ปรับความชันอัตโนมัติ (Auto) - ผู้ใช้สามารถปรับความชันได้ทันทีในขณะที่วิ่งอยู่ ทำให้สะดวกต่อการวิ่งเมื่อต้องการที่จะปรับทันที ส่วนใหญ่แล้วการปรับแบบอัตโนมัติจะสามารถปรับความชันได้ที่ 0-20% 


- หน้าจอและโปรแกรม

ลู่วิ่งไฟฟ้า IV50 - THE GYM CO.
ภาพจาก Thegymco.co


โดยปกติแล้วลู่วิ่งทั่วไปในท้องตลาดจะมีฟังก์ชันมาตรฐาน โดยฟังก์ชันหลักที่ควรมีได้แก่

ความเร็ว(Speed), ความชัน(Incline), การเผาผลาญแคลอรี่(Calories), ระยะที่วิ่ง(Distance), อัตราการเต้นหัวใจ(Heart Rate), เวลาการวิ่ง(Time), ปุ่มหยุดฉุกเฉิน(Safety Key)

บางรุ่นอาจจะมีโปรแกรมการวิ่งอัตโนมัติ คือปรับความเร็ว ความชันให้โดยอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ได้ปรับบนหน้าจอ เพิ่มความเพลิดเพลินให้กับผู้ใช้ด้วย หรือบางรุ่นอาจจะมีลำโพงติดมาด้วยสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์และเปิดเพลงฟังได้อีกด้วย


- การรับประกันและการจัดส่งสินค้า

Teknisi Service Treadmill Surabaya Alat Fitnes Termurah – Service Ac  Surabaya
ภาพจาก Service Ac Surabaya


ร้านขายลู่วิ่งที่ดีนั้นควรมีการรับประกันมอเตอร์ และโครงสร้างหลักจากบริษัทที่มีการจดทะเบียนในกระทรวงพาณิชย์เพื่อเป็นการยืนยันของตัวร้านค้า บ่อยครั้งที่มือใหม่ส่วนใหญาจะทำพลาดก็คือตัดสินใจซื้อจากระยะเวลาประกันอย่างเดียว และของราคาถูก ซึ่งของเหล่านั้นส่วนใหญ่ไม่ใช่ร้านค้ามืออาชีพ และอาจไม่มีศักยภาพมากพอในการให้บริการหลังการขายด้วย

และอีกเรื่องที่สำคัญก็คือการจัดส่ง บางรุ่นที่มีขนาดเล็กอาจมีการประกอบเบื้องต้นไว้ให้แล้วในกล่องในส่วนนี้ทำให้ไม่ต้องกังวลอะไร แต่ถ้าลู่วิ่งมีขนาดใหญ่และน้ำหนักเยอะ ก็อาจจะต้องให้ช่างมาติดตั้งให้ที่บ้าน เพราะเราไม่สามารถติดตั้งได้เองแน่ ๆ แต่เพื่อความสะดวกสบาย บางร้านนั้นก็มีการบริการที่มีศักยภาพมากพอสำหรับการจัดส่งฟรี ส่งไว และมีทีมช่างติดตั้งให้ถึงที่เลยทีเดียว

* ตัวอย่างลู่วิ่งที่ดีต่อการใช้งานและครบเครื่องเรื่องบริการหลังการขาย



หลังจากที่คุณได้รู้ถึงวิธีการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าแล้ว และกำลังมองหาลู่วิ่งไฟฟ้าสักเครื่องไว้เพื่อออกกำลังกาย เราขอแนะนำลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่น Impulse IT407 ที่มาพร้อมราคาเพียง 39,900 บาทเท่านั้น ด้วยสเปคเครื่องที่เทียบเท่ากับลู่วิ่งไฟฟ้า Star Trac แบรนด์อเมริกาที่มีราคาสูงถึง 100,000 บาท

ซึ่งลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่น Impulse IT407 นั้นมีสเปคที่สูสีกันเลยทีเดียว เพราะมีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานบนหน้าจอที่พิเศษกว่ารุ่นอื่น (ในราคาระดับเดียวกัน) เช่น ปุ่ม Pause หยุดโปรแกรมวิ่ง แล้วสามารถกดรันต่อได้ (ปกติจะมีฟังก์ชันนี้อยู่ในราคาที่แพง), โปรแกรม Body Fat เบิร์นไวขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการเผาผลาญ เป็นต้น 

มากกว่านั้นยัง สามารถพับเก็บได้ 90 องศา ประหยัดพื้นที่การใช้งาน, สายพานกว้างวิ่งแล้วไม่อึดอัด ตำแหน่ง Safety มีถึง 2 จุด ตัวเครื่องมีราวจับที่ยาว เหมาะสำหรับผู้สูงอายุและทุกวัยอีกด้วย สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การบริการหลังการขายของลู่วิ่งไฟฟ้าของเจ้าตัวนี้ยังคุ้มค่าสุด ๆ 
เพราะรับประกันสินค้านานสูงสุดถึง 10 ปี มีทีมงานพร้อมส่งฟรี ติดตั้งให้ถึงบ้านคุณ เข้าไปตรวจเช็คอะไหล่ให้คุณทุก ๆ 4 เดือน ด้วยราคาและการบริการที่คุ้มค่าสุด ๆ แบบนี้รอช้าไม่ได้แล้ว คุณเองสามารถเข้าไปเลือกซื้อได้แล้วตอนนี้ที่ >>Shopee , Lazada

สรุปทั้งหมด

นี่คือข้อควรรู้ทั้งหมดก่อนจะตัดสินใจซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าสักตัวไปไว้ออกกำลังกายที่บ้าน เพราะหากคุณไม่รู้สิ่งเหล่านี้เลย อาจทำให้เกิดผลเสียที่ไม่ดีตามมาอย่างแน่นอน ดังนั้นควรที่จะตรวจสอบรายละเอียดให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อด้วย เพราะบางครั้งของที่เป็นเครื่องออกกำลังกายไฟฟ้าเหล่านี้ค่อนข้างจะมีปัญหาได้ง่าย จึงต้องเลือกของที่ดีผ่านการรับรองที่ดีจริง ๆ 

อย่างไรก็ตามหากต้องการที่จะซื้อแล้ว ผมแนะนำว่าควรจะดูงบประมาณที่พอเหมาะ และความต้องการที่จะใช้อุปกรณ์นั้นมากเท่าไหร่ด้วย เพื่อเป็นการกำหนดเป้าหมาย และซื้อได้ถูกวัตถุประสงค์ตามต้องการของคุณ หากปฏิบัติตามทั้งหมดนี้ แน่นอนว่าผู้ซื้อนั้นจะไม่ต้องรู้สึกกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องมาเสียเล็กเสียน้อย หรือรู้สึกไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้ซื้อมาครับ

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!