ดัมเบล (Dumbbell) ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในการเริ่มต้นออกกำลังกายที่เป็นที่นิยมอย่างมากทั้งในฟิตเนส และคนที่ต้องการเริ่มต้นสร้าง Home Gym ภายในบ้าน เพราะดัมเบลเป็นอุปกรณ์ Free Weight ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระ
แถมยังมอบประโยชน์ต่อร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกายเพื่อควบคุมน้ำหนัก, การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มขนาดของกล้ามเนื้อ หรือเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายที่เรียกว่า “การเล่นเวทหรือเวทเทรนนิ่ง”
แต่ดัมเบลในปัจจุบันนั้นถูกออกแบบขึ้นมาหลากหลายรูปแบบ ทั้งจากวัสดุที่ทำมาจากยาง, เหล็ก, พลาสติก ฯลฯ และมีรูปแบบการใช้งานแตกต่างกัน ในบทความนี้เราจึงอยากพาคุณไปดูรูปแบบของดัมเบลแต่ละชนิด และทริคการเลือกซื้อดัมเบลให้เหมาะสม เพื่อความคุ้มค่าและตอบโจทย์กับการออกกำลังกายของคุณได้มากที่สุด
ปกติแล้วดัมเบลจะมีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน คือ
โดยทั้งสองแบบจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
ดัมเบลที่ไม่สามารถปรับน้ำหนักได้หรือมีน้ำหนักคงที่ (Fixed Dumbbells) หลัก ๆ แล้วมีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกันคือ
เหล็กเป็นวัสดุที่พบเจอได้บ่อยที่สุดในการใช้ทำแผ่นน้ำหนักสำหรับดัมเบล โดยมีข้อดีคือ หาซื้อได้ง่าย แต่มีข้อเสียคือ ง่ายต่อการเกิดสนิม (ที่เกิดจากเหงื่อที่มือหรือความชื้นในการเก็บรักษา) มีเสียงดังเมื่อกระทบกับวัตถุอื่น และอาจทำให้พื้นห้องเสียหายได้ง่ายด้วย
นอกจากนั้น ดัมเบลเหล็กบางตัวยังมีการชุบโครเมียมเข้าไป ทำให้อุปกรณ์มีความทนทาน ป้องกันการเกิดสนิมได้ แต่ก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้นกว่าปกติพอสมควร และยังมีดัมเบลแบบหุ้มยางที่ช่วยป้องกันการบาดเจ็บ ลดเสียง ลดรอยกระแทกเมื่อทำหล่นพื้นได้ด้วย
สำหรับดัมเบลยางจะเป็นรูปแบบดัมเบลที่ถูกผลิตโดยการใช้ยางไปผสมกับผงเหล็กหรือปูนซีเมนต์ มีความยืดหยุ่นมั่นคงมากกว่า เพราะสามารถยึดเกาะมือได้ดี ส่วนดัมเบลที่ทำจากพลาสติกส่วนมากจะใช้เป็นพลาสติก PP หรือ PVC ที่มีความทนทานแข็งแรง แต่จะมีขนาดเล็กและเบา ทำให้หาซื้อได้ง่าย ราคาถูกที่สุด
ดัมเบลที่ไม่สามารถปรับน้ำหนักได้เหมาะกับใคร?
ดัมเบลกลุ่มนี้ จะเหมาะกับการเทรนนิ่งที่ใช้น้ำหนักเดิมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนมากมักจะใช้เป็นการออกกำลังกายสำหรับผู้หญิงและมือใหม่ ที่มุ่งเน้นไปที่ความทนทานของกล้ามเนื้อมากกว่าการเพิ่มขนาดของกล้ามเนื้อในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม หากใครที่ต้องการเพิ่มความเข้มข้นของการออกกำลังกายก็จำเป็นต้องซื้อดัมเบลที่มีขนาดและน้ำหนักมากกว่าเข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งต้องคำนึงถึงพื้นที่การจัดเก็บภายในบ้านหรือฟิตเนสของคุณด้วยเช่นกัน
ดัมเบลแบบปรับน้ำหนักได้ (Adjustable Dumbbells) ส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุที่เป็นเหล็กหรือเหล็กหุ้มยาง แต่โดยรวมแล้วหลัก ๆ การปรับน้ำหนักก็มีอยู่ 2 รูปแบบเช่นเดียวกัน คือ
ดัมเบลชนิดนี้มาพร้อมกับก้านและห่วงน้ำหนักที่แยกออกจากกันได้ ผู้ใช้งานจึงสามารถเปลี่ยนแผ่นน้ำหนักให้เหมาะสมกับตนเองได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อหรือความแข็งแรงของส่วนต่าง ๆ ได้หลากหลาย โดยไม่จำเป็นต้องซื้อมาหลายขนาดจนทำให้เปลืองพื้นที่การจัดเก็บ
แต่ข้อควรระวังก็มีเช่นเดียวกัน เพราะจำเป็นต้องเปลี่ยนแผ่นน้ำหนักเอง อาจทำให้ตกหล่น หรือเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และหากซื้อแผ่นน้ำหนักมาคนละยี่ห้อ รูแกนกลางที่คุณจะเสียบแผ่นเหล็กปรับน้ำหนักเข้าไป อาจใช้ร่วมกันไม่ได้อีกด้วย เนื่องจากมีขนาดของเหล็กและโครงสร้างแตกต่างกันนั่นเอง
ดัมเบลชนิดนี้ผลิตมาพร้อมแท่นวางและแผ่นปรับน้ำหนักที่ยึดเข้าหากันทำให้ประหยัดพื้นที่ และใช้งานสะดวกมากกว่ารูปแบบอื่นที่ได้กล่าวมาทั้งหมด แถมยังมีระบบเซฟตี้ที่ช่วยป้องกันลูกเหล็กไม่ให้หลุดออกมาจากก้านได้ด้วย และแน่นอนราคาก็สูงกว่าดัมเบลรูปแบบอื่นด้วยเช่นกัน
เพราะคุณสามารถเลือกปรับน้ำหนักตามความต้องการของคุณได้ เพียงแค่หมุนปรับน้ำหนักตามแท่นเหล็กด้านข้างเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาวิธีการใช้ วิธีการปรับน้ำหนักก่อนเล่น การวอร์มอัพ และไม่ควรเล่นน้ำหนักที่ฝืนตัวเองจนเกินไป เพราะอาจส่งผลให้อุบัติเหตุได้เช่นเดียวกัน
ดัมเบลที่สามารถปรับน้ำหนักได้ เหมาะกับใคร?
ดัมเบลกลุ่มนี้จะเหมาะกับคนที่มีโปรแกรมการออกกำลังกายหลากหลาย เพราะคุณสามารถลดหรือเพิ่มน้ำหนักได้อย่างไม่จำกัดตามขนาดของดัมเบลและจำนวนแผ่นน้ำหนักที่คุณซื้อ
สำหรับใครที่คิดจะหันมาออกกำลังกายด้วยดัมเบลอย่างจริงจัง เพื่อสร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและมีขนาดใหญ่ขึ้นในอนาคต ต้องบอกเลยว่าเลือกซื้อดัมเบลที่สามารถปรับน้ำหนักได้จะเหมาะมาก ๆ เลยทีเดียว
หลังจากที่เราได้รู้จักประเภทของดัมเบลกันแล้ว เราจะพาคุณมาดูประโยชน์ของดัมเบลกันบ้างว่าทำไมถึงเป็นอุปกรณ์สุดฮิตทั้งในฟิตเนส และเหมาะสำหรับการนำไปเริ่มต้นสร้าง Home Gym ดังนี้
ดัมเบลเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อที่ราคาไม่แพง เพราะหนึ่งเซ็ตมีราคาเพียงหลักร้อยถึงพันเท่านั้น เมื่อเทียบกับเครื่องออกกำลังกายชนิดอื่น ๆ อย่าง Smith Machine, Lat Pulldown Machine ฯลฯ ซึ่งมีราคาหลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน จะเห็นได้ว่าดัมเบลหนึ่งเซ็ตมีราคาถูกกว่าเกือบ 100 เท่าเลยทีเดียว
ดังนั้นคนที่อยากเริ่มต้นออกกำลังกายด้วยดัมเบลจึงสามารถเลือกซื้อได้ตามงบที่ตัวเองมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นมือใหม่สามารถเริ่มต้นด้วย ดัมเบลราคาถูก แล้วจึงค่อยอัปเกรดฟังก์ชันเพิ่มในภายหลังได้ มากกว่านั้นสำหรับใครที่มีดัมเบลไว้ติดบ้านแล้วก็อาจทำให้คุณไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับการเข้าฟิตเนสบ่อย ๆ อีกด้วย
ดัมเบลสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้อย่างอิสระ และสามารถนำไปผสานใช้ร่วมกับท่าออกกำลังกายอื่น ๆ ได้อย่างยืดหยุ่นอีกด้วย เช่น สควอท, เวทเทรนนิ่ง, ท่าออกกำลังกายด้วยดัมเบลอย่าง Dumbbell Lunges, Dumbbell Chest Press, Dumbbell Single-arm Rows และอื่น ๆ อีกมากมาย
ดังนั้นหากคุณต้องการสร้างกล้ามเนื้อเพื่อให้บุคลิกของคุณดูดีขึ้น ไม่จำเป็นเลยว่าคุณจะต้องใช้อุปกรณ์แพงหรือต้องเข้าใช้บริการฟิตเนสทุกวัน เพียงแค่มีดัมเบลติดบ้านไว้ ก็สามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนได้เป็นอย่างดีมากแล้ว และยังเป็นที่นิยมใช้ในหมู่นักกล้าม เพื่อตกแต่งกล้ามเนื้อให้ดูสวยงาม เช่น การบริหาร Tricep และ Bicep
นอกการจะปั้นกล้ามแขนให้ดูสวย ล่ำบึ้ก ตามต้องการแล้ว ยังสามารถนำดัมเบลไปผสมผสานหรือปฏิบัติร่วมกับกิจกรรมอย่างอื่นได้ เช่น สควอท, รูปแบบท่านั่ง และท่ายืนอื่น ๆ ไปจนถึงการออกกำลังกายด้วยเครื่องปั่นจักรยานก็สามารถนำไปปฏิบัติร่วมด้วยได้เช่นกัน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
ดัมเบลเป็นอุปกรณ์ Free Weight ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก พกพาไปเล่นตามสถานที่ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ แถมยังมีขนาดเล็ก ทำให้เราประหยัดพื้นที่และสามารถวางเก็บไว้ตามตำแหน่งไหนของบ้านได้ง่ายอีกด้วย
ดัมเบลมีน้ำหนักให้เลือกเล่นมากมายหลายขนาด ดังนั้นดัมเบลจึงไม่ได้เหมาะแค่เพียงแค่ผู้ชายที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงและใหญ่ขึ้น แต่ยังเหมาะผู้หญิงที่ต้องการมีรูปร่างที่ดีขึ้น มีแขนที่กระชับ หรือแม้แต่ผู้สูงอายุเองที่ต้องการบริหารกล้ามเนื้อแบบเบา ๆ ให้มีความแข็งแรง
ดัมเบลจึงเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่เหมาะกับการเล่นสำหรับทุกเพศทุกวัย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรศึกษาท่าทางการเล่นที่ถูกต้องก่อนเพื่อจะได้มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง สวยงาม และลดการเกิดอุบัติเหตุหรืออาการบาดเจ็บนั่นเอง
สำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้หญิงที่ต้องการออกกำลังกายเพื่อกระชับสัดส่วน แนะนำให้เลือกใช้ดัมเบลที่มีน้ำหนักน้อยเป็นหลัก เพราะดัมเบลที่มีน้ำหนักน้อยจะไม่ทำให้กล้ามเนื้อของคุณใหญ่ขึ้น แต่จะช่วยสร้างความแข็งแรง สร้างความสมดุล และกระชับสัดส่วนให้กับร่างกายของคุณ
สำหรับใครที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงและเพิ่มขนาด แนะนำให้เลือกดัมเบลที่มีน้ำหนักที่พอดีกับตัวเองไปจนถึงน้ำหนักเยอะ จากนั้นให้เพิ่มน้ำหนักขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของร่างกายของคุณ
สำหรับผู้เริ่มต้นเล่นดัมเบลที่ต้องการสร้างความกระชับ หรือความทนทาน ควรเลือกน้ำหนักที่สามารถยกได้ถึง 20-25 ครั้ง แล้วหมดแรง (น้ำหนักเบาแต่เน้นที่จำนวนที่เยอะ)
หรือสำหรับคนที่เริ่มอยากเพิ่มพละกำลัง และต้องการมีกล้ามเนื้อที่ใหญ่ขึ้น ควรเริ่มด้วยน้ำหนักที่สามารถยกได้อย่างสบาย ๆ 12-15 ครั้ง แล้วหมดแรง (น้ำหนักที่พอดีสำหรับการปั้นหุ่น)
หลังจากที่ร่างกายมีการพัฒนามากขึ้นก็จึงค่อยเพิ่มน้ำหนักตามความเหมาะสมกับร่างกายได้เลย อย่างไรก็ตามควรศึกษาท่าที่ต้องการเล่นให้สัมพันธ์กับน้ำหนัก และการหายใจที่ถูกต้องขณะยกเวทด้วย
หากใครอ่านถึงตรงนี้แล้วคงจะเห็นแล้วว่าดัมเบลนั้นถือเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่มอบประโยชน์ให้กับร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังใช้งานได้สะดวก ราคาถูกอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาก่อนเริ่มทุกครั้ง คำนึงถึงความถูกต้องในการเล่น เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุและประสิทธิภาพที่ดีในการออกกำลังกายของคุณด้วย
หากคุณกำลังมองหาเซ็ตดัมเบลที่เหมาะกับตัวเอง และงบประมาณที่คุณตั้งไว้ ที่ NBA Sportmanagement มีเซ็ตดัมเบลคุณภาพสูง มาตรฐานฟิตเนส มาให้คุณเลือกซื้อตามความชอบในราคาสุดคุ้ม!
นอกจากนี้ เรายังมีอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายอื่น ๆ ให้เลือกซื้ออีกด้วย เช่น ลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี, เครื่องเดินบันได, Smith Machine เพียงคุณสั่งซื้อกับเราวันนี้ แถมสิทธิพิเศษอีกมากมาย ทั้งจัดส่งและติดตั้งฟรีถึงที่ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล), บริการตรวจเช็กเครื่องออกำลังกายให้ฟรีทุก ๆ 4 เดือน สามารถสั่งซื้อหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยตอนนี้ที่ LINE Official: @maxnumfitness
ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ