หลายคนอาจคิดว่าการออกกำลังกายจะต้องเป็นการวิ่งคาร์ดิโอแบบเข้มข้น หรือยกเวทอย่างหนักหน่วง แต่ความจริงแล้วกิจวัตรประจำวันอย่าง การเดิน ก็นับว่าเป็นการออกกำลังกายคาร์ดิโอง่าย ๆ ที่มอบประโยชน์มากมายให้ทั้งร่างกายและจิตใจของคุณ
และเช่นเดียวกับการวิ่งที่มีประเภทแยกย่อย เช่น วิ่งมาราธอน วิ่งเร็ว ฯลฯ การเดินก็แบ่งออกได้เป็นหลาย ๆ ประเภทเช่นเดียวกัน ซึ่งวันนี้ NBA Sportmanagement จะมาให้ความรู้ว่าการเดินมีกี่ประเภท รวมถึงมาบอกประโยชน์ของการเดินว่ามีผลดีอย่างไรให้กับคุณ มาติดตามได้เลย
การเดินออกกำลังกายสามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ประเภทดังนี้
เป็นรูปแบบการเดินปกติทั่วไปที่เป็นกิจวัตรประจำวันของมนุษย์ เช่น การเดินไปทำงาน การเดินเล่น ฯลฯ โดยการเผาผลาญจะอยู่ที่ประมาณ 200 แคลอรีต่อชั่วโมง สามารถเพิ่มระบบไหลเวียนโลหิตได้ในระดับปานกลาง
เป็นการเดินที่มีความเร็วเพิ่มขึ้นโดยอยู่ที่ 100 ก้าวต่อ 1 นาที หรือประมาณ 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การเดินเร็วจะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อและระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายให้ได้มากกว่าการเดินปกติ ทำให้เผาผลาญได้เพิ่มประมาณ 300 กิโลแคลอรีต่อชั่วโมง และมีผลงานวิจัยชี้ว่าการเดินเร็วมีผลช่วยยืดอายุให้ยืนยาวได้มากกว่า 24% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย
การเดินแกว่งแขนงอข้อศอกตั้งฉาก 90 องศาช่วยเพิ่มอัตราเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าปกติ 10% อยู่ที่ประมาณ 400 แคลอรีต่อชั่วโมง ดังนั้นถ้าใครที่รู้สึกว่าการเดินเร็วยังไม่ท้าทายมากพอ เพียงแค่แกว่งแขนเพิ่มเข้าไปก็จะช่วยพัฒนาระบบไหลเวียนโลหิตและความทนทานแก่ร่างกายมากกว่าเดิม
การเดินกรีฑาเราจะเห็นได้บ่อยในการแข่งขันโอลิมปิค โดยจะเป็นการเดินที่ต้องมีขาอย่างน้อย 1 ข้างสัมผัสกับพื้นอยู่ตลอดเวลา การแกว่งแขนและก้าวเดินจะเป็นสเต็ปสั้น ๆ และมีความเร็วการเดินที่เท่ากันอยู่ตลอดเวลาขณะเดิน การขยับร่างกายแบบนี้จึงทำให้การเดินแบบกรีฑากลายเป็นหนึ่งในรูปแบบการออกกำลังกายความเข้มข้นสูงที่เผาผลาญแคลอรีได้มากถึง 800 แคลอรีต่อชั่วโมง
เป็นรูปแบบการวิ่งที่มีความพิเศษโดยเน้นฟอร์มการวิ่งเป็นหลัก โดยจะเป็นการก้าวยาว ๆ ทำให้ผู้เดินต้องใช้สมาธิโฟกัสฟอร์มที่ถูกต้องตลอดเวลา ซึ่งประโยชน์ของการเดินไทชิจะไม่เน้นการเผาผลาญแคลอรี แต่จะได้ในส่วนของการเสริมสร้างสมาธิ ปรับบุคลิกภาพ เพิ่มความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว และยืดเหยียดร่างกายเพื่อให้ระบบเผาผลาญกลับมาทำงานปกติ
เป็นการเดินที่มีการใช้ตัวช่วยด้วยไม้นอร์ดิก 2 อันคล้ายกับการเดินขึ้นเขาและเล่นสกี การเดินแบบนอร์ดิกช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อได้เกือบทุกส่วนในร่างกาย เช่น ส่วนแขน ขา ลำตัว รวมถึงเพิ่มความทนทานให้กับร่างกายได้สูง ขั้นตอนการเดินจะก้าวขาและโน้มตัวไปข้างหน้า และใช้ไม้ค้ำอยู่ระดับเดียวกับส้นเท้าที่ก้าว จุดเด่นของการเดินนอร์ดิกคือจะช่วยทรงตัวผู้เดิน ลดโอกาสล้ม เหมาะสมกับผู้สูงอายุอย่างมาก
เป็นการเดินแข่งที่เน้นความทนทานของร่างกาย โดยระยะทางจะอยู่ราว ๆ 42 กิโลเมตร และจับเวลาอยู่ที่ 6-8 ชั่วโมง โดยผู้เดินสามารถใช้วิธีใดก็ได้ในการเดินเพื่อเก็บระยะทางให้ได้มากที่สุด โดยข้อดีของการเดินมาราธอนคือช่วยเพิ่มความทนทานให้ร่างกายได้เป็นอย่างดี สามารถต่อยอดไปสู่การวิ่งมาราธอนได้
สมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกาได้แนะนำเอาไว้ว่า การเดินออกกำลังกาย 30 นาทีเป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์จะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรง ลดความดันและระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ลดโอกาสเกิดโรคหัวใจได้ 19% และโรคหลอดเลือดสมอง (เส้นเลือดในสมองแตก) ได้ถึง 20-40%
การเดินจะช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน อินซูลิน ที่ช่วยลดโอกาสเกิดโรคเบาหวาน ซึ่งโรคเบาหวานทำให้เกิดโรคร้ายอื่น ๆ ตามมาได้อีกมากมาย เช่น โรคอักเสบเรื้อรัง, โรคมะเร็ง, โรคอ้วน, โรคอัลไซเมอร์ และต้อกระจก เป็นต้น
นอกจากการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินที่ช่วยยับยั้งโรคเบาหวานแล้ว ขณะเดินร่างกายจะมีการสร้าง ไซโตไคน์ หรือ กลุ่มโปรตีนที่จะส่งสัญญาณให้เซลล์อื่นๆ ทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายอย่างต่อเนื่อง ทำให้คุณมีร่างกายที่แข็งแรงอยู่เสมอ และมีผลวิจัยชี้เพิ่มว่าภูมิต้านทานที่เพิ่มขึ้นสามารถป้องกัน, ลดความรุนแรงของ COVID-19 ได้อีกด้วย
การเดินเป็นหนึ่งในการออกกำลังกายที่ช่วยพัฒนากระดูกได้ดีที่สุด เพราะการเดินจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณสะโพกและเข่าแข็งแรงขึ้นเพื่อช่วยรองรับการเคลื่อนไหวของไขข้อในร่างกาย รวมถึงจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเซลส์สร้างเนื้อกระดูกที่ชื่อว่า Osteoblasts ที่จะช่วยลดโอกาสเป็นโรคไขข้อกระดูกเสื่อมในหมู่ผู้สูงอายุ
นอกเหนือจากประโยชน์ด้านร่างกายแล้ว การเดินยังช่วยพัฒนาด้านจิตใจของคุณได้ เพราะขณะเดินร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขเรียกว่า เอ็นโดรฟิน ที่จะเข้าไปช่วยจัดการปรับระดับอารมณ์ในร่างกายให้ดีขึ้น ดังนั้นเพียงแค่คุณเดิน คุณก็จะรู้สึกมีความสุข ผ่อนคลาย รวมถึงทำให้สมาธิดีขึ้นที่จะช่วยให้จิตใจไม่วอกแว่ก ไม่คิดมาก ลดโอกาสเกิดโรคแพนิค (Panic Attack) ลงได้
งานวิจัยได้พบว่า การเดินสามารถช่วยเพิ่ม เมลาโทนิน ฮอร์โมนแห่งการนอนหลับที่ทำให้นอนหลับได้เร็วขึ้น หลับได้ลึกขึ้น และหลับได้นานขึ้น รวมถึงช่วยลดโอกาสเป็นโรคหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Sleep Apnia), ภาวะขากระตุกขณะนอนหลับ (Restless Leg Syndrome) และโรคเรเนาด์ (Raynaud’s Phenomenon) ที่เป็นโรคที่ทำให้กล้ามเนื้อบางส่วนเย็นแข็ง สีซีดลง เช่น นิ้วมือ, นิ้วเท้า และจมูก เพราะเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ
การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ทำได้ง่ายและมีประโยชน์ให้กับร่างกายมหาศาล ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ต้องการลดน้ำหนัก, เพิ่มความแข็งแรงให้กับหัวใจ, อยากมีร่างกายที่แข็งแรง หรือแม้แต่อยากนอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพียงแค่คุณเริ่มต้นเดินวันละ 30 นาที เท่านี้คุณก็สามารถพัฒนาได้ทั้งร่างกายและจิตใจได้พร้อม ๆ กันแล้ว
ทั้งนี้ การเดินก็ไม่จำกัดแค่การเดินนอกบ้านเท่านั้น คุณยังสามารถที่จะเดินออกกำลังกายภายในบ้านได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยจากอันตรายของรถยนต์ พื้นที่เดินไม่สม่ำเสมอ และการติดต่อของ COVID-19 ได้ด้วยตัวช่วยอันดับหนึ่งขณะนี้อย่าง เครื่องเดินวงรี Anyfit AI3 Elliptical ที่บอกได้เลยว่าจะทำให้การเดินของคุณดีขึ้นหลายเท่าตัว
เครื่องเดินวงรี Anyfit AI3 Elliptical เป็นเครื่องออกกำลังกายไร้แรงกระแทกที่มีหลักการคล้ายกับการเดินแบบนอร์ดิก ใช้เดินออกกำลังกายในบ้านได้ปลอดภัยทุกเพศทุกวัย เผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 270-400 แคลอรีต่อ 30 นาที (มากกว่าการเดินปกติ 1 เท่า) และตัวเครื่องมีฟีเจอร์ Step Depth เพิ่มความเข้มข้นให้กับการออกกำลังกายด้วยการเพิ่มแรงต้านและความลึกของก้าว รับรองได้เลยว่าจะช่วยตอบโจทย์การเดินให้กับคุณได้อย่างแน่นอน
และถ้าคุณซื้อเครื่องเดินวงรี Anyfit AI3 Elliptical วันนี้ คุณจะได้รับบริการหลังการขายมากมาย เช่น จัดส่งเครื่องเดินวงรีให้คุณถึงที่บ้าน, ตรวจสอบสภาพเครื่องให้ทุก 4 เดือน และรับประกันถึง 1 ปีเต็ม สุขภาพที่ดีเริ่มต้นง่าย ๆ เพียงแค่เดินเท่านั้น คลิก ที่นี่ เพื่อสั่งซื้อได้เลย
ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ