มือใหม่อยากสร้าง “Home Gym” เรารวบรวมไอเดียแต่ละรูปแบบมาไว้ให้คุณแล้ว !

เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้หลายคนตัดสินใจเริ่มลงทุนสร้าง “Home Gym” เพื่อออกกำลังกายในบ้านนั้น มีอยู่ไม่กี่ปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ความสะดวกในการออกกำลังกาย เพราะสามารถเลือกเล่นตอนไหนเมื่อไหร่ก็ได้ 

อีกทั้งยังมีโรคระบาดอย่าง Covid-19 ที่กำลังเจออยู่ในปัจจุบัน ทำให้เราไม่ควรออกไปเจอผู้คนเยอะ ๆ ที่เสี่ยงต่อการพบเจอเชื้อโรคภายในฟิตเนสหรือสถานที่อื่น ๆ อีกด้วย 

ซึ่งเหตุผลที่กล่าวมานี้แม้จะมีอยู่ไม่กี่อย่าง แต่นับว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก ๆ จึงทำให้หลายคนตระหนักถึงสุขภาพที่ดีและเริ่มลงทุนซื้อเครื่องออกกำลังกายเพื่อใช้ในระยะยาวนั่นเอง

และสำหรับใครที่มีพื้นที่ภายในบ้าน ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ หรือมีงบประมาณมากน้อยเพียงใด หากคุณต้องการสร้าง “Home Gym” เรารวบรวมไอเดียง่าย ๆ มาไว้ให้คุณแล้ว 


4 สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนเริ่มต้นสร้าง Home Gym

ก่อนเริ่มสร้าง Home Gym คุณควรตรวจสอบ 4 สิ่งนี้ให้แน่ใจเสียก่อน เพื่อที่จะได้เป็นตัวกำหนดการใช้เครื่องออกกำลังกายได้อย่างคุ้มค่า และตอบโจทย์ต่อสิ่งที่คุณต้องการได้มากที่สุด 

  1. เป้าหมายของการออกกำลังกาย

แต่ละคนนั้นมีความชื่นชอบและเป้าหมายในการออกกำลังกายแตกต่างกัน บางคนอยากหุ่นดี ต้องการปั้นหุ่นก็มักสนใจเลือกซื้ออุปกรณ์ชนิด Weight Machine และ Free Weight เช่น ดัมเบล บาร์เบล ฯลฯ บางคนต้องการเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับร่างกายก็อาจจะเน้นเพียงแค่แผ่นรองปูพื้นเพื่อฝึกโยคะ 

บางคนต้องการมีสุขภาพที่ดี ต้องการมีร่างกายที่แข็งแรงก็มักสนใจเลือกซื้ออุปกรณ์ชนิด Cardio เช่น เชือกกระโดด ลู่วิ่งไฟฟ้า ฯลฯ ขึ้นอยู่กับประเภทของกีฬาที่คุณสนใจ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเลือกอุปกรณ์เพื่อบรรลุเป้าหมายของตนเอง

  1. ขนาดและพื้นที่

ก่อนที่จะเลือกซื้ออุปกรณ์หรือเครื่องออกกำลังใดก็ตาม คุณควรประเมินขนาดและกำหนดพื้นที่ในแต่ละส่วนภายในบ้านให้เรียบร้อย หรือหากใครมีพื้นที่ไม่เยอะก็อาจจะคำนวณด้วยตาเปล่าคร่าว ๆ ก็ได้ 

เพราะขนาดพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการจัดวางอุปกรณ์ ยิ่งถ้าใครมีพื้นที่ภายในบ้านที่กว้างยิ่งควรวัดพื้นที่อย่างละเอียด มิเช่นนั้นคุณก็จะไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าอุปกรณ์ควระจัดวางหรือเลือกอุปกรณ์แต่ละประเภทได้มากน้อยเพียงใดต่อเป้าหมายในการออกกำลังกายของคุณ

  1. งบประมาณ

นอกเหนือจากขนาดพื้นที่แล้วงบประมาณก็คือส่วนสำคัญที่มีความสัมพันธ์กัน ว่าควรเลือกซื้ออุปกรณ์แต่ละประเภทกี่ชิ้น ซื้อได้มากน้อยเพียงใด และควรเลือกซื้อยี่ห้อใดได้บ้าง 

แต่ความพิเศษของการสร้าง Home Gym ในบ้านด้วยตัวเองนั้น จะไม่มีข้อจำกัดว่าคุณต้องเก็บเงินซื้อทุกอย่างในครั้งเดียว คุณสามารถทยอยซื้ออุปกรณ์ตามความจำเป็นทีละเล็กละน้อยก็ได้ เพียงแต่ว่าคุณจะต้องวางแผนไว้ก่อนเป็นอย่างดีเพื่อที่จะได้จัดสรรงบประมาณและการจัดวางได้อย่างถูกต้อง หรือหากต้องการเพิ่มความสะดวกในการซื้อมากขึ้น ก็ควรหาร้านที่สามารถผ่อนสินค้าได้ เพื่อจะได้ทยอยซื้ออุปกรณ์ได้ตามความจำเป็นและความต้องการของคุณ

  1. เงื่อนไขการรับประกันและการซ่อมบำรุง

อุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายทุกชนิดเมื่อถูกใช้งานเป็นระยะเวลานาน ก็ย่อมเสื่อมและชำรุดไปตามกาลเวลา ดังนั้นหลังจากที่คุณรู้พื้นที่และงบประมาณของตัวเองแล้ว ก่อนเลือกซื้ออุปกรณ์คุณควรหาร้านค้าที่มีทีมซัพพอร์ทเรื่องการรับประกันสินค้า และบริการหลังการขายที่ดีให้กับคุณ

เพราะร้านขายเครื่องออกกำลังกายที่ดีควรจะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญรับประสินค้าให้คุณ(กรณีสินค้าชำรุด ซ่อมฟรีในระยะประกัน) บริการติดตั้งและจัดส่งฟรีถึงบ้านคุณ อีกทั้งยังต้องมีทีมงานคอยตรวจเช็คให้คุณทุก ๆ 4 เดือน (เงื่อนไขแต่ละร้านไม่เหมือนกัน) สิ่งนี้จะบ่งบอกถึงความคุ้มค่าในการใช้งานและเงินที่คุณได้ใช้จ่ายไป


ประเภทของเครื่องออกกำลังกายที่ควรมีติดไว้ในบ้านเพื่อสร้าง “Home Gym”

เมื่อเรามีเป้าหมายในการออกกำลังกายและกีฬาที่ชื่นชอบแล้ว ทีนี้เรามาดูประเภทของเครื่องออกกำลังกายกันบ้างว่าอุปกรณ์แต่ละชนิดจัดอยู่ในหมวดหมู่ใด มีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเราจะขอรวบรวมมาไว้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน คือ

  1. ประเภท Strength

การออกกำลังกายแบบ Strength คือ การออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อ (Strength Training) หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือการเล่นกล้าม ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่เน้นเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแร็งของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยมีวิธีทำให้กล้ามเนื้อได้ออกแรงไปทีละจุดด้วยท่าออกกำลังกายแบบต่าง ๆ ที่ต้องใช้อุปกรณ์การเล่นแบบเฉพาะเจาะจง

ซึ่งเครื่องออกกำลังกายในส่วนนี้นั้นจะประกอบไปด้วย

  • Machine Weight 

เครื่องออกกำลังกายที่มีโครงสร้างค่อนข้างใหญ่ ราคาค่อนข้างสูง และเคลื่อนย้ายยาก ประกอบไปด้วย Smith Machine ที่รวมฟังก์ชันการออกกำลังกายทุกส่วนไว้ในเครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เช่น Leg Press Machine (พัฒนากล้ามเนื้อส่วนขา), Power Rack (พัฒนากล้ามเนื้อ Upper body ส่วนบนของร่างกาย) และยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ อีกมากมายที่เน้นเสริมสร้างเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเท่านั้น ด้วยขนาดของอุปกรณ์ประเภทนี้ที่ค่อนข้างใหญ่ คุณจำเป็นต้องศึกษาอุปกรณ์แต่ละชนิดให้มีความมั่นใจก่อนเลือกซื้อทุกครั้งเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ต่อร่างกายของคุณได้จริง ๆ 

  • Free Weight

คืออุปกรณ์เสริมสร้างกล้ามเนื้อหรืออุปกรณ์ยกน้ำหนักที่ตั้งอยู่แบบอิสระ ไม่ได้ยืดติดอยู่กับที่หรือพื้น เช่น ดัมเบล (Dumbbell), บาร์เบล (Barbell), เคตเทิลเบล (Kettlebell), คลับเบล (Clubbell), แผ่นเหล็ก, ถุงทราย หรือแม้กระทั่งสิ่งของรอบบ้านที่มีน้ำหนักเพียงพอเช่น ขวดน้ำลิตร หรือกระป๋องซุปก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน

แม้แต่ม้านั่ง หรือแผ่นรองปูพื้น ที่สามารถนำมาใช้ร่วมกับการยกน้ำหนัก , การ Body Weight ออกกำลังกายด้วยแรงต้านของร่างกาย เช่น ซิทอัพ วิดพื้น ฯลฯ ล้วนแต่เป็นการออกกำลังกายเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อทั้งนั้น สามารถนำมาปรับใช้กับงบประมาณและพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดได้เลย


  1. ประเภท Cardio 


การออกกำลังกายแบบ Cardio คือ การออกกำลังกายแบบการเต้นแอโรบิค เน้นการกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ระบบเผาผลาญ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรง ยิ่งระบบโลหิตไหลเวียนดี เลือดก็สามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้มากขึ้น และนำพาสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น วิตามิน เกลือแร่ รวมไปถึงออกซิเจนไปเลี้ยงยังเซลล์ส่วนต่าง ๆ ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นด้วย

คาร์ดิโอนั้นเป็นรูปแบบกีฬาที่หลายคนรู้จักกันดี และเป็นรูปแบบกีฬาสุดฮิตที่หลายคนมักเลือกปฏิบัติกันด้วย หากคุณต้องการอยากมีสุขภาพที่ดีและต้องการออกกำลังกายได้อย่างเคลื่อนไหวและมีอิสระ เราขอแนะนำให้คุณเลือกซื้อเครื่องออกกำลังกาย Cardio ติดไว้ภายในบ้าน ซึ่งจะประกอบไปด้วย

ลู่วิ่งไฟฟ้า เครื่องปั่นจักรยาน เครื่องเดินวงรี เครื่องกรรเชียงบก เครื่องขั้นบันได ฯลฯ ที่เป็นตัวช่วยให้การคาร์ดิโอของคุณมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หรือหากใครที่มีงบน้อยสามารถนำอุปกรณ์เล็ก ๆ อย่าง เชือกกระโดด ดัมเบล มาประยุกต์ใช้กับการออกกำลังกายคาร์ดิโอได้เช่นเดียวกัน และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือศึกษาเครื่องออกกำลังกายแต่ละชนิดก่อนทุกครั้งเพื่อเลือกให้เหมาะสมกับร่างกายของคุณ


ไอเดียการจัดวางเครื่องออกกำลังกาย 

เพราะเราเชื่อว่าตัวอย่างและผลงานที่ดีมักสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนอื่น ๆ ได้เสมอ เราจึงอยากยกตัวอย่างคร่าว ๆ เพื่อให้คุณนำไอเดียเหล่านี้นำไปปรับใช้กับการจัดวางและตกแต่งพื้นที่ออกกำลังกายในบ้านของคุณ 

โดยตัวอย่างที่เราจะยกให้ดูนี้จะเป็นตัวอย่างที่มือใหม่ควรนำไปปรับใช้ กับการสร้าง Home Gym ภายในบ้านของคุณ เพราะนอกจากจะช่วยคุณประหยัดพื้นที่การใช้งานแล้ว ยังช่วยให้คุณเลือกเครื่องออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งานด้วย 

มากกว่านั้นคุณยังสามารถนำไอเดียเหล่านี้ไปปรับใช้กับการจัดวางอุปกรณ์ภายในบ้านของคุณ แม้ว่าคุณจะมีพื้นที่ใช้สอยมากน้อยแค่ไหนก็ตาม หากพร้อมแล้วมาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

  • ตัวอย่างที่ 1


รูปแบบการจัดวางเครื่องออกกำลังกายประกอบไปด้วย เครื่องเดินวงรี เคตเทิลเบล ลูกบอลออกกำลังกาย เชือกกระโดด และเสริมด้วยชั้นวางของ ชั้นวางรองเท้า ชุดแขวนอุปกรณ์ แผ่นรองพื้น ฯลฯ

ภาพจาก Pinterest

  • ตัวอย่างที่ 2

รูปแบบการจัดวางเครื่องออกกำลังกายประกอบไปด้วย เครื่องปั่นจักรยาน เคตเทิลเบล ดัมเบล เสื่อโยคะ แผ่นรองพื้น และชั้นวางอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ 

ภาพจาก Pinterest

  • ตัวอย่างที่ 3


รูปแบบการจัดวางเครื่องออกกำลังกายประกอบไปด้วย ลู่วิ่งไฟฟ้า ชุดดัมเบลขนาดเล็ก ชุดสร้างกล้ามเนื้อ และเครื่องกรรเชียงบก 

ภาพจาก Pinterest

จาก 3 ตัวอย่างที่เราได้กล่าวมานั้น หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าเรามุ่งเน้นไปที่การประหยัดพื้นที่ ด้วยการออกแบบที่มือใหม่และทุกบ้านควรมีเป็นอย่างยิ่งในการสร้าง Home Gym โดยหลัก ๆ แล้วจะประกอบไปด้วย 

  • อุปกรณ์คาร์ดิโอ 1 ชิ้น เช่น ลู่วิ่งไฟฟ้า เครื่องเดินวงรี เครื่องปั่นจักรยาน หรืออุปกรณ์คาร์ดิโออื่น ๆ ตามความชอบ
  • อุปกรณ์ Free Weight อย่างดัมเบล บาร์เบล เพื่อประหยัดพื้นที่การใช้สอยแถมยังปั้นหุ่นให้สวยงามได้ 
  • เพิ่มเติมอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เพื่อความหลากหลาย เช่น ลูกบอลออกกำลังกาย เชือกกระโดด แผ่นรองโยคะ ฯลฯ

อุปกรณ์เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้คุณออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ทั้งการคาร์ดิโอที่ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกาย ฝึกความทนทาน หรือการเวทเทรนนิ่งที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ปั้นหุ่นสวยตามความต้องการ และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ตามความชอบเพื่อสร้างความหลากหลายในการออกกำลังกาย 

นอกจากนั้นยังช่วยให้คุณประหยัดพื้นที่ สามารถออกแบบจัดวางตามความต้องการ หรือหากใครมีพื้นที่เยอะหน่อยก็อาจได้เปรียบเรื่องการจัดวาง และสามารถเพิ่มอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ตามความต้องการมากยิ่งขึ้น (ควรจัดสรรให้เหมาะสมกับงบประมาณและการใช้งาน)

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ อย่าลืมตรวจสอบวัสดุของพื้นที่จัดวางภายในบ้านด้วยว่าสามารถทนต่อแรงกระแทกของอุปกรณ์แต่ละชนิดได้มากน้อยเพียงใด หรือหากมีการจัดวางแล้วจะมีรอยชำรุดเกิดขึ้นหรือไม่ เพื่อที่จะได้ป้องกันปัญหาเหล่านี้ด้วยการซื้อแผ่นรองพื้นรองรับการเกิดรอยและแรงกระแทกนั่นเอง

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียง Tips สำหรับการเลือกเครื่องออกกำลังกาย และการจัดวางอุปกรณ์ที่สามารถทำได้ง่าย ราคาไม่สูง คร่าว ๆ เท่านั้น ยังมีในเรื่องของพื้นผิวภายในบ้าน และลักษณะรูปทรงพื้นที่ที่แตกต่างกันของแต่ละคนด้วย ซึ่งเป็นสิ่งคุณต้องทำความเข้าใจและวางแผนก่อนทุกครั้งก่อนตัดสินใจเลือกซื้อด้วย 


กำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำและวางแผนกับคุณอยู่หรือไม่ ?

เพียงแค่คุณบอกว่ามาจากบทความนี้ เรามีโปรโมชั่นเซ็ตสร้าง Home Gym สุดคุ้ม ไว้รอคุณแล้ว พร้อมทีมงานติดตั้ง จัดส่งฟรีถึงบ้าน พร้อมรับประกันสินค้ายาวนาน และทีมงานตรวจเช็คอุปกรณ์ให้คุณทุก ๆ 4 เดือน (คุ้มค่าเรื่องราคา และบริการหลังการขายแน่นอน) ติดต่อปรึกษาทีมงานตอนนี้


ในสถานการณ์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของ Covid-19 ในตอนนี้ ทำให้เราไม่มีทางรู้เลยว่าฟิตเนสนั้นจะเปิดให้บริการได้ปกติเมื่อไหร่ และจะปลอดภัยจาก Covid-19 ได้อย่าง 100% หรือไม่

ดังนั้นหากใครที่กำลังต้องการสร้าง Home Gym ภายในบ้าน คุณสามารถดูโปรโมชั่นสุดคุ้มที่รวบรวมอุปกรณ์สุดฮิตมาลดราคาครบจบให้คุณแล้ว หรือนำไอเดียที่เราแนะนำในเนื้อหาด้านบนไปปรับใช้ได้เลย เพื่อเป็นไอเดียในการจัดวาง ตกแต่ง และเลือกเครื่องออกกำลังกายให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอยในบริเวณบ้านของคุณ

หรือหากใครที่กำลังต้องการผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาเรื่อง งบประมาณ วัสดุภายในบ้าน การวัดพื้นที่ การเลือกเครื่องออกกำลังกายให้เหมาะกับเป้าหมาย คุณสามารถเข้ามาปรึกษาเราได้ทันที 
เพราะเรามีทีมงานมากประสบการณ์กว่า 20 ปี ผ่านการบริการมาครบทุกรูปแบบ พร้อมกับเครื่องออกกำลังกายที่มีให้คุณเลือกสรรมากมาย และการบริการหลังการขายที่คุ้มค่าแก่คุณอย่างแน่นอน ปรึกษาเราตอนนี้ ที่นี่ เรามีโปรโมชั่นดี ๆ รอคุณอยู่ !!

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!