เทรนด์สุขภาพ 2023 ถือว่าเป็นสิ่งที่เจ้าของฟิตเนสหลายคนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเมื่อพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนไป ฟิตเนสก็ต้องมีการปรับตัวตามไปด้วย เพื่อทำให้ธุรกิจฟิตเนสตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด และเติบโตไปพร้อม ๆ กับสร้างกำไรอย่างยั่งยืนได้
ในบทความนี้ NBA Sportmanagement ก็ได้รวบรวมเทรนด์สุขภาพ 2023 ที่น่าสนใจมาให้คุณแล้ว จะมีเทรนด์สุขภาพอะไรกันบ้าง ไปอัปเดตกันเลย!
หลังเหตุการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 เป็นต้นมาก็ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญและใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง ‘การกิน’ ตั้งแต่คัดสรรอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไปจนถึงการรับประทานอาหารเสริม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายมากขึ้น พร้อมป้องกันโรคภัยต่าง ๆ
ในปี 2023 เทรนด์อาหารเสริมสุขภาพจึงถือว่ามาแรงมาก ๆ โดยจากสถิติจาก EuroMonitor พบว่าปี 2016 ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินของประเทศไทย มีมูลค่า 53,810 ล้านบาท แต่ในปี 2021 เพิ่มขึ้นเป็น 74,247 ล้านบาท จะเห็นว่าตลาดนี้มีการเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว
และเราก็จะเห็นได้แล้วว่าผู้คนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ซึ่งฟิตเนสก็สามารถนำเทรนด์นี้มาปรับใช้ได้ ด้วยการขายอาหารเสริม เช่น วิตามินรวม เวย์โปรตีน ฯลฯ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการทำการตลาดเพิ่มเติมให้กับฟิตเนสของคุณได้อีกหนึ่งทาง
ปัจจุบันเทคโนโลยีทางด้านสุขภาพมีการพัฒนาไปไกลมาก ซึ่งเราจะเห็นว่ายุคนี้มี Digital Health เกิดขึ้นมากมายทั้ง Smartwatch ที่เข้ามาช่วยตรวจจับการนอน เพื่อเฝ้าระวังและปรับปรุงคุณภาพของการนอนให้ดีขึ้น หรือแอปพลิเคชัน Zwift ที่เชื่อมกับลู่วิ่งไฟฟ้า ที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสบการณ์การออกกำลังกายให้สนุกและตื่นเต้นยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้นก็ยังมีการนำเทคโนโลยีอื่น ๆ มาช่วยดูแลสุขภาพพื้นฐานของตัวเองอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นทั้ง เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิทัล, แอปพลิเคชัน Tracking การออกกำลังกาย เป็นต้น
ชีวิตในปัจจุบันมักจะเต็มไปด้วยความเร่งรีบ ทำให้เทรนด์สุขภาพในปี 2023 นี้ ผู้คนมักจะหันมาชอบการออกกำลังกายแบบฟิวชันมากขึ้น หรือรูปแบบการออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อทั้งร่างกายที่ใช้เวลาสั้น ๆ เพียง 30 นาทีเท่านั้น แต่เป็นการออกกำลังกายที่ใช้พลังงานสูง ทั้ง เวทเทรนนิ่ง, Strength Training ไปจนถึงการคาร์ดิโอ ควบคู่ไปกับการยืดกล้ามเนื้อ
โดยการออกกำลังกายแบบฟิวชันจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ พร้อมทั้งเผาผลาญพลังงาน และกระชับสัดส่วนร่างกายได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่มีประสิทธิภาพสูง
ซึ่งเจ้าของฟิตเนสก็สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจฟิตเนสของคุณได้ เช่น การจับคู่คอร์สออกกำลังกายมากกว่า 2 ประเภทขึ้นไปผนวกเป็นคอร์สเพิ่มเติมได้ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากที่สุด และยังเป็นทางเลือกคอร์สการออกกำลังกายใหม่ ๆ ที่ทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกเบื่ออีกด้วย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม:
ตอนนี้หลายคนเริ่มมองหาวิธีการออกกำลังกายใหม่ ๆ ที่ทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่สนุก และไม่น่าเบื่อเหมือนการออกกำลังกายรูปแบบเดิม ๆ ซึ่งการออกกำลังกายแบบ Virtual Reality (VR) หรือการออกกำลังกายเสมือนจริง ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ที่หลายคนเลือก ทำให้กลายเป็นเทรนด์สุขภาพ 2023 ที่น่าจับตามองอีกหนึ่งเทรนด์
การออกกำลังกายแบบ Virtual Reality (VR) คือ การนำเทคโนโลยีมาผสานเข้ากับการออกกำลังกาย ซึ่งเราจะสามารถดื่มด่ำและมีส่วนร่วมกับสภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาใกล้เคียงกับของจริง เสมือนเราไปอยู่ที่แห่งนั้นจริง ๆ เลย แต่การที่จะสามารถเข้าสู่โลกการออกกำลังกายเสมือนจริงได้นั้นก็ต้องมีแอปพลิเคชันหรือเกมการออกกำลังกายในลักษณะของ VR ด้วย เช่น Zwift, WIRTUAL เป็นต้น
สำหรับเจ้าของฟิตเนสคนใดที่อยากจะสร้างภาพลักษณ์ฟิตเนสให้มีความทันสมัยมากขึ้น รวมถึงอยากดึงดูดลูกค้าที่อยากสัมผัสประสบการณ์การออกกำลังกายที่แตกต่างจากเดิม ก็อาจจะลองนำ Virtual Exercise มาเป็นส่วนหนึ่งของฟิตเนสของคุณดูก็ได้ รับรองว่าจะต้องถูกใจใครหลายคนอย่างแน่นอน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม:
สำหรับเทรนด์การเดินและการวิ่งไม่ใช่เทรนด์สุขภาพใหม่แต่อย่างใด แต่เป็นเทรนด์ที่อยู่มานานและยังคงได้รับความนิยมอยู่เรื่อย ๆ เพราะเป็นสิ่งที่หลายคนทำอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น เดินไปทำงาน, เดินเล่นในห้างสรรพสินค้า, วิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะ, วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าฟิตเนสหรือ Home Gym หรือวิ่งเพื่อเตรียมตัวแข่งขันมาราธอน เป็นต้น
นอกจากนี้ การวิ่งและเดินยังเป็นการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพ และเป็นจุดเริ่มต้นของใครหลาย ๆ คนในการเริ่มออกกำลังกาย ซึ่งมีผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าการเดินมีบทบาทสำคัญในการช่วยรักษาความคล่องตัวและอิสระในการเคลื่อนไหวร่างกาย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ และยังมีแรงกระแทกต่ำส่งผลกระทบต่อข้อต่อน้อยกว่าการออกกำลังกายในรูปแบบอื่นอีกด้วย
หากใครที่อยากเริ่มต้นออกกำลังกายด้วยการเดิน-วิ่ง เราแนะนำว่าให้เริ่มต้นจากการเดินเร็ว 30 นาที เป็นระยะเวลา 5 วัน/สัปดาห์ ก่อน ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมและศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ แนะนำมาอีกด้วย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม:
สำหรับเทรนด์สุขภาพ 2023 ที่เรานำมายกตัวอย่างกันในวันนี้ แต่ละเทรนด์ก็มีความน่าสนใจมาก ๆ และเจ้าของฟิตเนสก็สามารถนำไปปรับใช้เข้ากับฟิตเนสของตัวเองได้ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน รวมถึงเป็นโอกาสและช่องทางในการเพิ่มลูกค้า และทำกำไรให้กับฟิตเนสของคุณได้อย่างยั่งยืนนั่นเอง
สำหรับเจ้าของฟิตเนสท่านใดที่กำลังมองหาอุปกรณ์-เครื่องออกกำลังกาย โดยเฉพาะลู่วิ่งไฟฟ้าเกรดยุโรปที่สามารถเชื่อมต่อกับ Zwift ได้ เพื่อเป็นการตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ 2023 และเพิ่มประสบการณ์การออกกำลังกายรูปแบบใหม่ให้กับลูกค้า
ขอแนะนำ Maxnum T63C ลู่วิ่งไฟฟ้าระดับพรีเมียม เชื่อมต่อกับ Zwift Run ได้เลยในตัว ดีไซน์สวยหรูสีดำตัดแดง แข็งแรงทนทาน สั่งซื้อ Maxnum T63C โดยตรงกับ NBA Sportmanagement วันนี้ พร้อมรับประกันยาวนาน 1 ปี และจัดส่งถึงที่ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล) หากคุณสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับเราได้เลยตอนนี้ ฟรี!
ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ