เช็กลิสต์สิ่งที่ควรรู้ ก่อนซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า เลือกอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งานที่สุด [อัปเดต 2022]

หากปี 2022 นี้คุณกำลังมีแพลนที่จะเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการซื้อมาเพื่อออกกำลังกาย ลดความอ้วน เพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย หรือกำลังจะเริ่มสร้างโฮมยิม แทนที่การไปฟิตเนสในช่วงที่มีสถานการณ์โรคระบาด

แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า การจะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาไว้ที่บ้านเราสักเครื่อง ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง นอกจากเรื่องราคา ในบทความนี้เราเลยจะมาบอกเช็กลิสต์สิ่งที่คุณควรรู้ ก่อนซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า เลือกอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งานที่สุด ไปติดตามกันได้เลย

สิ่งที่คุณต้องจัดเตรียม ก่อนซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาใช้ในบ้าน

อันดับแรก หากคุณกำลังมีความคิดที่จะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาใช้งานในบ้านนั้น ปัจจัยแรกที่คุณต้องมีเลยก็คือ งบประมาณ หรือ Budget เพราะแน่นอนว่า ลู่วิ่งไฟฟ้า แม้จะขึ้นชื่อว่า ลู่วิ่งไฟฟ้าเหมือนกันแต่ สเปคการใช้งาน ฟังก์ชันต่าง ๆ ก็จะแตกต่างกันออกไปตามราคา

โดย ลู่วิ่งไฟฟ้าราคาถูก ก็จะมีราคาเริ่มต้นที่หลักพันปลาย ๆ ไปจนถึงหลักหมื่นต้น ๆ (ราคาไม่เกิน 25,000 บาท) โดยส่วนมากจะอยู่ในรูปแบบของลู่วิ่งแบบ Walking Pad ซึ่งสเปคการใช้งาน ก็จะอยู่ในระดับเริ่มต้น มีกำลังไฟฟ้าไม่เยอะ รวมถึงขนาดของลู่วิ่ง ที่จะมีขนาดเล็ก กะทะรัด สามารถพับเก็บได้ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายแต่มีข้อจำกัดด้านสถานที่ 

แต่กลับกัน ลู่วิ่งไฟฟ้า ที่มีราคาถูกก็อาจจะมีข้อเสียบางอย่าง เช่น แรงม้าน้อย ไม่สามารถเร่งความเร็วได้เยอะ ใช้งานติดต่อกันนานไม่ได้ อาจจะไม่เหมาะกับสเปคความต้องการของผู้ที่ต้องการวิ่งจริงจัง


อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ >> ลู่วิ่งไฟฟ้าราคาถูก กับ ลู่วิ่งไฟฟ้าราคาแพง แตกต่างกันอย่างไร ?

โดยสิ่งที่ต่อมาที่คุณต้องเตรียมคือ สถานที่ในการจัดวางลู่วิ่งไฟฟ้า หลังจากที่คุณรู้ความต้องการของตัวเองแล้วว่า ต้องการลู่วิ่งไฟฟ้าที่ขนาดและราคาเท่าไรแล้วนั้น ก็ต้องเตรียมสถานที่ให้เหมาะกับการวางลู่วิ่งไฟฟ้า โดยสถานที่ที่ใช้วางลู่วิ่งไฟฟ้านั้น จะต้องเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับปลั๊กไฟ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และต้องเป็นพื้นที่ที่อากาศสามารถถ่ายเทได้ดี เช่น ใกล้หน้าต่าง ประตู (เพื่อให้คุณสามารถหายใจสะดวกขณะออกกำลังกาย) ดังรูปตัวอย่างด้านล่าง 

ภาพจาก verywelllift


ซึ่งถ้าคุณเตรียมความพร้อมทั้งด้านงบและสถานที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาไปเช็คกันได้เลยว่า ในการจะเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าให้ตรงตามการใช้งานของคุณมากที่สุดนั้น ต้องคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้าง 

เช็กลิสต์สิ่งที่ควรรู้ ก่อนซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า เลือกอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งานที่สุด

1. แรงม้าและมอเตอร์

สิ่งแรกที่คุณต้องตรวจเช็ก เมื่อมีแพลนที่จะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า ก็คือเรื่องของแรงม้าและมอเตอร์ เพราะลู่วิ่งไฟฟ้าเมื่อต่างรุ่นต่างยี่ห้อกัน นอกจากขนาดและหน้าตาของลู่วิ่งไฟฟ้า ที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ภายในแตกต่างกันก็คือ แรงม้าและมอเตอร์ ที่อยู่ภายในลู่วิ่ง

โดยมอเตอร์ของลู่วิ่งไฟฟ้านั้นจะมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ AC และ DC แต่มอเตอร์ลู่วิ่งที่เหมาะกับการใช้ในงานในบ้านนั้นจะเป็นมอเตอร์ DC เพราะมีขนาดเล็กกว่า AC แรงม้าอยู่ที่ 1-3 แรงม้า ซึ่งถือเป็นกำลังแรงม้าที่เหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้าน แต่ถ้าคุณต้องการลู่วิ่งไฟฟ้า เกรดฟิตเนส เน้นใช้งานหนัก ๆ  ก็ต้องมองหาเป็นลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีมอเตอร์แบบ AC ซึ่งมีราคาที่สูงกว่าลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ DC

2. ขนาดของสายพาน

ขนาดของสายพานลู่วิ่งไฟฟ้า ก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้งานเหมือนกัน เพราะถ้าสายพานของลู่วิ่งกว้างมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ผู้วิ่งนั้นสามารถวิ่งได้สะดวกมากขึ้น โดยขนาดของสายพานลู่วิ่งไฟฟ้าที่ดีนั้นจะต้องมีความยาวเกินกว่าช่วงขาในขณะวิ่ง (กว้างไม่ต่ำกว่า 40 เซนติเมตร และ ยาวไม่น้อยกว่า  120 เซนติเมตร) เพื่อให้สามารถวิ่งได้อย่างสะดวก 

และต้องมีพื้นที่พักเท้า ข้างสายพาน ที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรง มีความกว้างพอดีกับฝ่าเท้าของเรา เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ หรือเวลาที่เราต้องการจะลดระดับความเร็ว ก็สามารถมาพักเท้าตรงพื้นที่ตรงนี้ได้

ภาพจาก today

3. ฟังก์ชันของการใช้งาน

ฟังก์ชันของการใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยลู่วิ่งไฟฟ้าที่ดีจะต้องมีฟังก์ชันการใช้งานครบครัน เช่น การปรับโหมดโปรแกรม ที่ปกติแล้วถ้าเป็นลู่วิ่งไฟฟ้ามาตรฐาน จะมีโปรแกรมในการฝึกซ้อมมาให้มากกว่า 5 โปรแกรม (บางรุ่นมีถึง 10 โปรแกรม) ซึ่งสามารถช่วยให้เราฝึกซ้อมตามโปรแกรมที่ทางลู่วิ่งแถมมากับเครื่องได้ เช่น ฟังก์ชัน Fat Burn เน้นการเผาผลาญไขมัน, ฟังก์ชัน Endurance Training เน้นการเพิ่มความอึดให้ร่างกาย ฯลฯ

หรือถ้าลู่วิ่งไฟฟ้าบางรุ่นที่มีราคาสูงหน่อย ก็สามารถเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน เพิ่มโปรแกรมการฝึกซ้อมที่คุณสามารถออกแบบเองได้ ซึ่งการที่ลู่วิ่งไฟฟ้า มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ก็จะช่วยทำให้เรารู้สึกสนุกกับการออกกำลังกายในแต่ละวันมากขึ้น ทำให้การออกกำลังกายของเราเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว

4. ความเร็ว ความชันสูงสุดที่ปรับได้

ความเร็ว ความชันสูงสุดที่ลู่วิ่งไฟฟ้าทำได้ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ห้ามมองข้ามสำหรับการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า ซึ่งการทำความเร็วนั้นก็จะขึ้นอยู่กับความแรงของมอเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่ลู่วิ่งไฟฟ้า จะสามารถปรับความเร็วสูงสุดได้สูงถึง 12 กม/ชม แต่ทั้งนี้ถ้าลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีราคาสูง ก็อาจจะสามารถทำความเร็วได้มากกว่านั้น เช่นกันกับความชันที่สามารถปรับไปได้ถึง 20% จากองศาปกติ

ซึ่งก่อนการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า คุณต้องกำหนดเป้าหมายของการออกกำลังกายของคุณด้วย เช่น ถ้าคุณต้องการซื้อมาแค่วิ่งจ๊อกกิ๊ง ไม่ได้เน้นทำความเร็วมาก ก็เลือกลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีการทำความเร็วสูงสุดที่ไม่เกิน 12 กม/ชม ก็เพียงพอ แต่ถ้าต้องการพัฒนาตัวเองในการวิ่ง ฝึกการทำความเร็ว ก็อาจจะต้องมองหาลู่วิ่งไฟฟ้าที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่านี้ รวมถึงความแข็งแรงของมอเตอร์ด้วยเช่นกัน

5. วัสดุและการรองรับน้ำหนัก

ในการใช้ลู่วิ่งไฟฟ้า เพื่อออกกำลังกายไม่ว่าจะวิ่ง วิ่งเร็ว เดินชัน หรือเดินปกติ แน่นอนว่าหัวเข่าและข้อเท้าของคุณจะเกิดแรงกระแทก ที่ถ้าละเลยไปอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณในระยะยาวได้ ซึ่งถ้าคุณมีการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า โดยคำนึงจากวัสดุที่ใช้ในการผลิต ซึ่งควรต้องวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน มีระบบการรองรับน้ำหนัก และแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นเมื่อใช้งานบ่อย ๆ 

6. ความน่าเชื่อถือของร้านค้า

ปัจจุบันการซื้อลู่วิ่งไฟฟ้านั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะมีช่องทางการซื้อสินค้าที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการซื้อในห้างสรรพสินค้า ร้านขายอุปกรณ์ออกกำลังกาย ซื้อกับโรงงานผลิตโดยตรง หรือจะเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ก็ได้เช่นกัน ซึ่งความน่าเชื่อถือของร้านค้า ที่จำหน่ายลู่วิ่งไฟฟ้า ถือเป็นสิ่งสำคัญเหมือนกัน

โดยเฉพาะถ้าคุณเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า ผ่านช่องทางออนไลน์ ก็ควรเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าจากร้านค้าที่มีเครดิต มีรีวิวจากผู้ที่เคยซื้อมาแล้ว หรือจำหน่ายอยู่บน Marketplace ที่ผ่านการยืนยันตัวตนร้านค้ามาแล้ว เช่น Shopee, Lazada ยิ่งถ้าร้านเหล่านั้นมีหน้าร้านจริงจะยิ่งดี

7. การบริการหลังการขาย เช่น ประกันสินค้า การจัดส่ง

และสุดท้ายคือเรื่องของ การบริการหลังการขาย ที่ต้องครบครันทั้งการรับประกันการใช้งานสินค้า ถ้าซื้อไปแล้วลู่วิ่งไฟฟ้าเกิดเสีย เครื่องเปิดไม่ติด ก็สามารถเรียกช่างมาซ่อมได้อย่างรวดเร็ว (On Site Service) หรือถ้าเสียหนักก็สามารถเคลมได้ง่าย ถ้าอยู่ในระยะเวลาการรับประกันสินค้า

และอีกเรื่องที่สำคัญก็คือเรื่อง การจัดส่ง เพราะลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นสินค้าขนาดใหญ่ ที่ไม่สามารถบรรทุกใส่รถยนต์ส่วนตัวของคุณได้ ร้านขายลู่วิ่งไฟฟ้าที่ดี ควรมีบริการจัดส่งสินค้าถึงหน้าบ้านฟรี เพื่ออำนวยความสะดวกให้คุณได้มากที่สุด

ภาพจาก indiamart

สรุปทั้งหมด

การที่คุณกำลังจะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าสักเครื่องนั้น จำเป็นที่จะต้องเลือกพิจารณาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่เราได้แนะนำไปทั้งหมด เพื่อที่ช่วยให้คุณได้หาลู่วิ่งไฟฟ้าที่เหมาะกับการใช้งาน ความต้องการในการใช้งานและเป้าหมายของการออกกำลังกายของคุณได้มากที่สุด 
และหากตอนนี้คุณกำลังมองหา ลู่วิ่งไฟฟ้า สักเครื่องไว้ใช้งาน NBA Sport Manangement มีลู่วิ่งไฟฟ้าจำหน่ายทั้งที่ Shopee และ Lazada ซึ่งมี ลู่วิ่งไฟฟ้า รวมไว้ตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงราคาแพง พร้อมการรับประกันสินค้า การบริการหลังการขาย และทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมติดตั้งฟรีถึงบ้านคุณ รับประกันประสบการณ์จากบริษัทจำหน่ายเครื่องออกกำลังกาย คุณภาพอันดับ #1 มาตรฐานใช้ในฟิตเนส

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!