โปรแกรมเพิ่มกล้ามเนื้อ vs โปรแกรมลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบไหน เหมาะกับคุณ

โปรแกรมเพิ่มกล้ามเนื้อ vs โปรแกรมลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบไหน เหมาะกับคุณ

2 โปรแกรมยอดฮิตที่ทุกคนต้องเคยออกกำลังกายตามกันก็คือ โปรแกรมเพิ่มกล้ามเนื้อ ที่เป็นการเวทเทรนนิ่ง และโปรแกรมลดน้ำหนัก ที่เน้นการคาร์ดิโอ ซึ่งมีวิธีการดูแลตัวเองและการกินที่แตกต่างกัน บทความนี้ NBA Sportmanagement จะมาสรุปทั้งสองโปรแกรม เพื่อให้สามารถเลือกโปรแกรมออกกำลังกายตามได้ตรงตามจุดประสงค์ที่ต้องการ ช่วยให้เลือกออกกำลังกายได้เหมาะสมกับร่างกายของคุณ

โปรแกรมเพิ่มกล้ามเนื้อ คืออะไร

โปรแกรมเพิ่มกล้ามเนื้อ คือการออกแบบโปรแกรมออกกำลังกาย ให้เหมาะกับการสร้างกล้ามให้แข็งแรง โดยเฉพาะ โดยที่รูปแบบการออกกำลังกายจะเน้นการ เวทเทรนนิ่ง เป็นหลัก เพื่อให้ร่างกายเรียนรู้การควบคุมกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ รู้ว่าออกกำลังกายแล้วปวดหรือเจ็บส่วนไหนเป็นพิเศษ (Mind Muscle Connection) เพื่อให้กล้ามเนื้อเกิดการซ่อมแซมตัวเองและทำให้แข็งแรงยิ่งขึ้น

ขอบคุณภาพจาก mensjournal

โปรแกรมเพิ่มกล้ามเนื้อ เหมาะกับใคร

โปรแกรมเพิ่มกล้ามเนื้อนั้น เหมาะกับคนที่ต้องการทำให้ร่างกายมีแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อใช้ยกของหนัก หรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรง โดยที่จุดพิจารณาสำคัญคือปริมาณไขมันในร่างกาย เพราะหากมีปริมาณไขมันเยอะเกินไป การออกกำลังกายตามโปรแกรมเพิ่มกล้ามเนื้อ อาจทำให้ได้ประสิทธิภาพน้อยลง

  • สำหรับผู้ชาย การเพิ่มกล้ามเนื้อจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปริมาณไขมันต่ำกว่า 15% 
  • สำหรับผู้หญิง การเพิ่มกล้ามเนื้อจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปริมาณไขมันต่ำกว่า 22% 

พลังงานที่ควรได้รับ ต่อวัน

สำหรับโปรแกรมเพิ่มกล้ามเนื้อนั้น ควรจะต้องกินหรือรับพลังงานเข้าสู่ร่างกาย มากกว่าที่ร่างกายต้องการ 10% เพื่อไม่ให้ร่างกายนำพลังงานไปสร้างไขมันมากจนเกินไป โดยเป้าหมายที่เหมาะสมในการเพิ่มกล้ามเนื้อแต่ละเดือนคือราว ๆ 1-2% โดยสามารถคำนวณแคลอรี่ที่ต้องการเพิ่มในแต่ละวันได้ จากน้ำหนักของร่างกายแบบ Lean Body Mass* + %ปริมาณกล้ามเนื้อที่ต้องการเพิ่ม ตัวอย่างเช่น

  • น้ำหนักเริ่มต้น 70 กก. ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อเดือนละ 2% = 1.4 x 6,000 (ปริมาณแคลอรี่ต่อการเพิ่มกล้ามเนื้อ 1 กิโล) = 8,400 แคลอรี่
  • นำแคลอรี่หารด้วยจำนวนวันที่ออกกำลังกาย 8,400 แคลอรี่ / 28 วัน= 300 แคลอรี่ต่อวัน

สรุปคือพลังงานที่ใช้สร้างกล้ามเนื้อ 2% ต่อเดือน สำหรับน้ำหนัก 70 กก. จะต้องเพิ่มจากที่ร่างกายต้องการอย่างน้อย +300 แคลอรี่/วัน โดยพลังงานที่เพิ่มมา ควรจะต้องเพิ่มควบคู่ไปกับการออกกำลังกายด้วย เพื่อเปลี่ยนพลังงานให้เป็นกล้ามเนื้อ

*Lean Body Mass คือ น้ำหนักของร่างกายไร้ไขมัน ใช้ในการดูน้ำหนักของร่างกายที่ปราศจากไขมันให้ได้กล้ามเนื้อที่เห็นชัดเจน โดยมีสูตรคำนวณดังนี้

  • สำหรับเพศชาย : LBM = (0.32810 x น้ำหนัก) + (0.33929 x ส่วนสูง) - 29.5336
  • สำหรับเพศหญิง : LBM =( 0.29569 x น้ำหนัก) + (0.41813 x ส่วนสูง) - 43.2933
ขอบคุณภาพจาก wikipedia

โปรแกรมลดน้ำหนัก คืออะไร

โปรแกรมลดน้ำหนัก คือการออกแบบโปรแกรมออกกำลังกาย ที่เน้นรูปแบบคาร์ดิโอเป็นหลัก เพื่อจุดประสงค์ลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน ด้วยการเผาผลาญไขมัน ทำให้เลือดสูบฉีด และสร้างหัวใจให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เป็นการลดพร้อมกับสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ไม่โหมลดน้ำหนักจนเกิดผลเสียต่อร่างกายนั่นเอง

ขอบคุณภาพจาก freeletics

โปรแกรมลดน้ำหนัก เหมาะกับใคร

โปรแกรมลดน้ำหนักนั้น เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย หรือลดไขมัน ลดน้ำหนักเพื่อหลีกเลี่ยงโรคร้ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคไขมันอุดตัน โรคความดัน หรือโรคอ้วนที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้การลดน้ำหนักยังช่วยให้รูปร่างดูดี เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง ทำให้แต่งตัวได้ดูดี กระชับสัดส่วนมากขึ้น โดยผู้ที่ควรเข้าโปรแกรมลดน้ำหนักนั้น

  • สำหรับผู้ชาย การลดน้ำหนักจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปริมาณไขมันมากกว่า 15%
  • สำหรับผู้หญิง การลดน้ำหนักจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปริมาณไขมันมากกว่า 22%

พลังงานที่ควรได้รับ ต่อวัน

โปรแกรมลดน้ำหนักนั้น ควรเริ่มจากการลดปริมาณอาหารที่ทานลง หรือเปลี่ยนเป็นทานอาหารที่มีพลังงานต่ำ เพื่อให้ร่างกายได้รับปริมาณพลังงานที่เหมาะสม ไม่เยอะเกินไปจนร่างกายนำไปเปลี่ยนเป็นไขมัน แต่ข้อสำคัญคือควรปรับปริมาณอาหาร ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายด้วย จึงจะเป็นการลดน้ำหนักที่ดี ได้ผลในระยะยาว 

โดยพลังงานขั้นต่ำที่ควรได้รับคือ

  • สำหรับเพศหญิง ประมาณ 1,500 - 2,000 แคลอรี่/วัน
  • สำหรับเพศชาย ประมาณ 2,000 - 2,500 แคลอรี่/วัน

*ปริมาณแคลอรี่ที่แต่ละคนต้องการ จะแตกต่างกันไปตามปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น อายุ เพศ น้ำหนัก 

ขอบคุณภาพจาก eatingwell

เครื่องออกกำลังกายแบบไหน เหมาะกับโปรแกรมอะไรบ้าง

การจะออกกำลังกายตามโปรแกรมเพิ่มกล้ามเนื้อ หรือโปรแกรมลดน้ำหนักนั้น การเลือกใช้เครื่องออกกำลังกายที่เหมาะสม จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

1.ลู่วิ่งไฟฟ้า

เครื่องออกกำลังกายอย่างลู่วิ่งไฟฟ้านั้น เหมาะกับการออกกำลังกายในโปรแกรมลดน้ำหนัก เพราะเป็นเครื่องที่ใช้ในการคาร์ดิโอได้โดยตรง ด้วยการปรับความเร็วและปรับความชันได้ สามารถออกแบบดีไซน์การวิ่งให้เหมาะสม เผาผลาญไขมันได้ตามต้องการ 

ยกตัวอย่างการวิ่ง 30 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เหมาะกับการวิ่งเพื่อลดน้ำหนัก เผาผลาญไขมันในร่างกาย

  • วิ่งด้วยความเร็วปกติ 30 นาที เผาผลาญได้ประมาณ 350 - 400 แคลอรี่
  • วิ่งด้วยความเร็วสูง 30 นาที เผาผลาญได้ประมาณ 500 - 600 แคลอรี่

2.เครื่อง Smith Machine

เครื่อง Smith Machine นั้นเป็นเครื่องที่เหมาะกับการใช้ในโปรแกรมเพิ่มกล้ามเนื้อเป็นอย่างมาก เช่นเครื่อง Maxnum Multi Function Smith T101 ซึ่งเป็นเครื่องออกกำลังกายที่ออกแบบมาให้เล่นเวทเทรนนิ่งได้หลากหลายท่าในเครื่องเดียว ทำให้สามารถทำตามโปรแกรมเพิ่มกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

สร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ต้อง Multi Function Smith T101

ถ้าเป้าหมายการออกกำลังกายของคุณคือการเพิ่มกล้ามเนื้อ สร้างความแข็งแรง ทำให้ร่างกายมีแข็งมากขึ้น NBA Sportmanagement ขอแนะนำ Maxnum Multi Function Smith T101 เครื่องออกกำลังกายอเนกประสงค์ ที่สามารถสร้างกล้ามเนื้อได้แบบ Full Body ทั้งร่างกายครบ จบในเครื่องเดียว 

สนใจสั่งซื้อ Multi Function Smith T101 คลิก >> Maxnum Fitness เลย

  • บริหารกล้ามเนื้อได้ทุกส่วน ทั้งหน้าอก หน้าท้อง หลัง แขน ขา
  • ออกแบบท่าเวทเทรนนิ่งได้หลากหลายตามต้องการ
  • ฟรี! ม้านั่งยกน้ำหนักรุ่นพรีเมียม
  • ฟรี! แผ่นยกน้ำหนัก 60 กก.

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!