สถานการณ์การแพร่ระบาดระรอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้ขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้นในขณะนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ประกอบการธุรกิจออกกำลังกายทุกราย ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนสขนาดเล็ก-ใหญ่ ยิมแบบ Indoor และ Outdoor หรือสตูดิโอฟิตเนส ต่างก็ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้เต็มที่ในขณะนี้ นับว่าเป็นจุดต่ำสุดของวงการฟิตเนสเลยก็ว่าได้
ดังนั้นแล้ว จะมีหนทางใดบ้างที่จะมาเป็นวิธีการช่วยเหลือให้ธุรกิจฟิตเนสของผู้ประกอบการทุกคนสามารถเดินหน้าต่อได้ โดยให้มีการสูญเสียหรือขาดทุนน้อยที่สุด วันนี้ NBA Sportmanagement ได้รวบรวม 6 วิธีปรับตัวของผู้ประกอบการฟิตเนส ภายใต้สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ครั้งใหม่ มาเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการทำธุรกิจในยุคนี้ให้สามารถดำรงธุรกิจต่อได้
แต่ก่อนที่จะถึงส่วนของวิธีการปรับตัวของธุรกิจฟิตเนส ผู้ประกอบการควรที่จะตระหนักถึง ‘สถานการณ์ธุรกิจฟิตเนสในปัจจุบัน’ เพื่อเป็นความรู้เบื้องต้นที่จะช่วยลดความเสี่ยงการลงทุนฟิตเนสในอนาคตได้
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดหนัก เหล่าผู้ประกอบการฟิตเนสจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ค่าพื้นที่รายเดือน-ปี, ค่าพนักงาน (เทรนเนอร์, พนักงานทั่วไป) ซึ่งจากมาตรการการปิดตัวจากทางรัฐบาลก็ทำให้ฟิตเนสทั้งหลายจะต้องให้บริการลูกค้าด้วยการ ‘สอนออกกำลังกายผ่านระบบออนไลน์’ ที่ทำให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้จากที่บ้าน, หรือการให้เทรนเนอร์สอนรายคนระบบ Online
แต่การใช้มาตรการเหล่านี้ก็ต้องแลกมากับการที่ฟิตเนสจะต้อง ‘ระงับการเรียกเก็บค่าสมาชิก’ หรือแม้กระทั่งต้อง ‘ยืดระยะเวลา’ Membership ของลูกค้า ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องสูญเสียรายได้จากค่าสมาชิก, ค่าต่อสมาชิกตรงจุดนี้ไปโดยปริยาย
มากไปกว่านั้น ธุรกิจฟิตเนส ได้ถูก Disrupt ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนามาเพื่อการฝึกฝนการออกกำลังกายโดยเฉพาะอย่าง Peloton ซึ่งเป็นบริษัทที่บริการ Streaming คลาสเรียนออกกำลังกาย เพื่อให้ผู้บริการสามารถออกกำลังกายในบ้านได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยเปิดตัวพร้อมกับจักรยานออกกำลังกายและลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีจอสัมผัส มีระบบ WiFi ภายในเครื่อง
โดย Peloton ได้ชูจุดเด่นด้วยฟีเจอร์การแข่งออกกำลังกายแบบเรียลไทม์กับผู้อื่น เพื่อสร้างบรรยากาศให้สมาชิกรู้สึกเสมือนได้ท้าทายตัวเองอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีการว่าจ้างเทรนเนอร์ที่เป็นดารามีชื่อเสียง ทำให้ผู้ใช้บริการรู้สึกว่าได้ออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กับคนดัง
โดยล่าสุด ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กรุงเทพมหานคร หรือ ศบค.กทม. ได้อนุญาตให้เปิดสถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนสได้ตามปกติ แต่ต้องมีมาตรการ Social Distancing ระหว่างเครื่องออกกำลังกายอย่างน้อย 2 เมตร มีการทำความสะอาดจุดที่ต้องสัมผัสบ่อย ๆ ด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ผู้ให้บริการ, ผู้ใช้บริการจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะอยู่ในพื้นที่ และจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ
สำหรับธุรกิจฟิตเนสที่ไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบความปลอดภัยก็จะต้องถูกระงับการเปิดให้บริการอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นแล้ว สิ่งแรกควรพึงกระทำนั่นก็คือ ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลในการสร้างระยะห่างทางสังคม และข้อปฏิบัติอื่น ๆ ที่สามารถทำให้ธุรกิจฟิตเนสมีมาตราฐานความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการ
โดยตัวอย่างมาตรการที่ควรพึงปฏิบัติมีดังนี้
โดยหลักการข้างต้นถือว่าเป็นมาตรการ New Normal ที่สามารถจะเรียก ‘ความเชื่อมั่น’ ให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการได้อีกครั้ง รวมถึงยังเป็นการ ‘สร้างมาตรฐานความสะอาด’ ที่จะคงอยู่ไปตลอดกับธุรกิจฟิตเนสของคุณ ที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ของคุณได้
นอกเหนือไปจากการปรับตัวด้าน Offline แล้ว ผู้ประกอบการยังต้องจับตาดูเทรนด์เทคโนโลยีในขณะนี้ที่มีการพัฒนาก้าวกระโดด และหยิบจับนำเทคโนโลยีนั้นมาเป็นจุดเด่น หรือตัวช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจในสถานการณ์ยากลำบากขณะนี้ได้
ดังนั้นแล้ว การเพิ่มในส่วนของ ‘คลาสเรียนออนไลน์’ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อเป็นการนำเสนอทางเลือกใหม่ ๆ สำหรับการออกกำลังกายแก่ผู้ใช้บริการ ให้สามารถเรียนรู้, ออกกำลังกายได้จากที่บ้าน หรือที่ใดก็ได้
หากคุณยังเป็นผู้ที่เริ่มต้นในการจัดทำคลาสเรียนออนไลน์ คุณอาจจะเริ่มต้นจากการทำ Live Streaming หรือ Premiere ผ่าน Facebook Group, YouTube (ผ่านการสมัครสมาชิก Channel Membership Subscription) และเมื่อสามารถตั้งตัวได้แล้ว ก็อาจจะลงทุนเพิ่มกับการทำเว็บไซต์ของตัวเอง ที่สามารถต่อยอด และกลายมาเป็น Main Hub สำหรับแบรนด์ต่อไป
มากไปกว่านั้น คลาสเรียนออนไลน์ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นการออกกำลังกายเสมอไป อาจจะเป็นคลาสเรียนสอนความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย ตัวอย่างไอเดียของคลาสให้ความรู้ก็จะมีดังนี้
และหากเป็นคลาสเรียนที่เป็นการสอนออกกำลังกาย ตัวอย่างไอเดียของคลาสก็จะมีดังนี้
ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งคลาสเรียนมีความน่าสนใจเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถดึงดูดให้ผู้ใช้บริการเข้ามาเลือกซื้อคอร์สได้มาก หากพัฒนาจนมีคุณภาพดี แบรนด์แข็งแรง น่าเชื่อถือ ก็จะเป็นอีกหนึ่งการพัฒนาที่สามารถเป็นแหล่งรายได้หลักแทน Membership รายเดือน-ปี ได้
หลังจากที่ได้พัฒนาหลักสูตรออนไลน์สำหรับฟิตเนสแล้ว บริการเพิ่มเติมที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ ‘บริการเช่า-ยืมอุปกรณ์ออกกำลังกาย’ สำหรับสมาชิกปัจจุบันของฟิตเนสของคุณ
โดยหลักการให้เช่ายืมสามารถทำเป็นแพคเกจอุปกรณ์ออกกำลังกาย เช่น แพคเกจเครื่องปั่นจักรยาน ราคา 2,000 บาท ใช้งานได้ 2 สัปดาห์ โดยการจะใช้บริการเช่า-ยืมอุปกรณ์ได้จะต้องเป็นสมาชิกของฟิตเนส และต้องมีการวางเงินมัดจำขณะเช่า-ยืม เพื่อเป็นหลักค้ำประกันความปลอดภัย
และคุณยังสามารถนำ ‘บริการคลาสเรียนออนไลน์’ เข้ามาเสริมรวมเข้ากับแพคเกจการให้บริการเช่า-ยืมอุปกรณ์ออกกำลังกายได้เช่นเดียวกัน ยิ่งสามารถส่งเสริมการตัดสินใจเลือกซื้อของผู้ใช้บริการได้อย่างดีเยี่ยม
ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่ผู้ประกอบการ แต่ผู้ใช้บริการก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน ทำให้ผู้ใช้บริการอาจจะไม่สามารถเข้ามาใช้บริการได้ ดังนั้น ทางฟิตเนสจึงจะต้องมีมาตรการที่จะช่วยเยียวยา ลดผลกระทบให้กับผู้ที่ได้สมัครสมาชิกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น
ธุรกิจฟิตเนสในขณะนี้จำเป็นจะต้องมีการทำโปรโมชัน เพราะผู้ให้บริการควรที่จะต้องรักษาฐานสมาชิกเก่าเอาไว้ให้ได้ และต้องหาลูกค้าใหม่ที่มีกำลังในการซื้อเพียงพออยู่เสมอ โดยตัวอย่างโปรโมชันที่น่าสนใจมีดังนี้
หากคุณกำลังอยู่ในขั้นตอนการปรับเปลี่ยน ขยายฟิตเนส, ยิม คุณควรที่จะเลือกซื้อเครื่องออกกำลังกายที่มี ’ความคุ้มค่าในระยะยาว’ ด้วยการพิจารณาจากปัจจัยของ ‘บริการหลังการขาย’ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญในการดำเนินธุรกิจฟิตเนสของคุณ
เครื่องออกกำลังกายจาก NBA Sportmanagement ทุกชิ้น มาพร้อมกับบริการหลังการขายอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม ที่จะช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับคุณ อาทิเช่น การจัดส่ง-ติดตั้งอุปกรณ์ให้คุณถึงสถานที่ประกอบการ การรับประกันอุปกรณ์ขั้นต่ำ 1 ปี
และทาง NBA Sportmanagement ยังมีการสำรองอะไหล่เครื่องออกกำลังกายเอาไว้ 5% เสมอ และยังมีบริการที่สำคัญที่สุด คือบริการตรวจสอบสภาพความแข็งแรงทนทานของอุปกรณ์ให้ฟรีทุก ๆ 4 เดือน ที่จะเป็นตัวการันตีความอุ่นใจของคุณได้เป็นอย่างดี หากสนใจแล้วสามารถเลือกซื้อได้ทันที >>> ที่นี่ หรือบน Shopee, Lazada
แม้ว่าฟิตเนสและยิมออกกำลังกายต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดให้บริการแล้วในขณะนี้ แต่ด้วยระยะเวลาการปิดให้บริการที่นาน ทำให้เหล่าผู้รักสุขภาพมีไลฟ์สไตล์การออกกำลังกายที่ไม่เหมือนเดิม 100% โดยอาจจะมีการหันไปสร้าง Home Gym หรือใช้บริการเทรนเนอร์ส่วนตัวรูปแบบออนไลน์ภายในบ้าน เพราะช่วยให้อุ่นใจ คลายกังวลจากไวรัสโควิด-19
สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 จึงกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนของธุรกิจฟิตเนส ที่มีทั้งข้อดีข้อเสียแก่ผู้ประกอบการฟิตเนสทุกคน แต่อย่างไรก็ตาม ฟิตเนสและยิมยังคงเป็นสถานที่ ๆ มีบรรยากาศชวนให้ออกกำลังกายอยู่เสมอ และเราคาดหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ จนกลับมาสู่สภาวะปกติในที่สุด
ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ