5 เทรนด์ออกกำลังกายมาแรง ที่ผู้ประกอบการของฟิตเนสยุคใหม่ต้องรู้ [อัปเดต 2023]

เทรนด์ออกกำลังกายในยุค New Normal ทำให้ผู้คนหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น ถือเป็นแรงผลักดันให้ฟิตเนสของผู้ประกอบการทั้งหลาย ต้องมีการปรับรูปแบบการออกกำลังกาย รวมไปถึงเทคโนโลยีที่มีการพัฒนามาปรับใช้กับการออกกำลังกายต่าง ๆ เพื่อยกระดับให้ฟิตเนสมีความแตกต่างและน่าสนใจมากขึ้น

วันนี้ NBA Sportmanagement จะขอพาไปแนะนำ 5 เทรนด์ออกกำลังกายมาแรง ในปี 2023 ที่ผู้ประกอบการของฟิตเนสยุคใหม่ต้องรู้ว่าสำคัญอย่างและมีเทรนด์ออกกำลังกายอะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ!

เทรนด์ออกกำลังกายสำคัญต่อผู้ประกอบการอย่างไร

ในปัจจุบัน การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้คนมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ฟิตเนสต้องปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน ยิ่งฟิตเนสของคุณมีความทันสมัยตามเทรนด์ออกกำลังกายใหม่ ๆ มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีลูกค้าเข้ามาใช้งานฟิตเนสของคุณมากเท่านั้น เพราะสามารถตอบโจทย์การออกกำลังกายที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของลูกค้าได้

ภาพจาก cnbcposts

เจาะลึก 5 เทรนด์ออกกำลังกายที่ฟิตเนสยุคใหม่ต้องมี

5 เทรนด์ออกกำลังกายที่มาแรงในปี 2023 ที่มีหลากหลายรูปแบบจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

ออกกำลังกายไปกับเทคโนโลยี Virtual Training

Virtual Training เป็นการออกกำลังกายเสมือนจริง ที่นำเทคโนโลยีผสมผสานเข้ากับเครื่องออกกำลังกายและพาผู้ใช้งานเข้าไปสู่โลกออนไลน์จำลองของการออกกำลังกาย เรียกได้ว่าเป็นมิติใหม่ของการออกกำลังกายที่สร้างความแตกต่างให้กับฟิตเนสชั้นนำที่มีโปรแกรม Virtual Training

Zwift Run

Zwift Run แอปพลิเคชันที่มีระบบเชื่อมต่อกับลู่วิ่งไฟฟ้าที่จะพาผู้ใช้งานเข้าไปสู่โลก VR (Virtual Reality) ที่จะได้พบเจอกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ในโลกออนไลน์และสามารถทำกิจกรรมหรือแข่งขันได้อย่างอิสระ ทำให้ลูกค้าของคุณสามารถวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าได้อย่างเพลิดเพลินและไม่เบื่ออีกต่อไป

ภาพจาก redbull

เพลิดเพลินไปกับการวิ่งในโลกจำลองด้วยลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่น Maxnum T63C

 NBA Sportmanagement ขอเสนอลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum T63C ที่มีระบบเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Zwift Run ในราคาพิเศษเพียง 19,900 บาทเท่านั้น

สเปคของลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum T63C 

  • รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และแอปฯ Zwift Run 
  • มอเตอร์ไฟฟ้า DC 4 แรงม้า (พีค) 
  • ขนาดตัวเครื่อง 169x74x132 เซนติเมตร 
  • หน้าจอแบบ LCD แสดงอัตราความเร็ว, ระยะเวลา, แคลอรี่, ระยะทาง, ความชัน และอัตราการเต้นของหัวใจ 
  • ปรับความเร็วได้ 16 กิโลเมตร/ชั่วโมง 
  • ปรับความชันได้ถึง 15 ระดับ พื้นที่วิ่ง 45x130 เซนติเมตร น้ำหนักตัวเครื่อง 60 กิโลกรัม 
  • รองรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้สูงสุด 120 กิโลกรัม

Zwift Bike

Zwift Bike เทคโนโลยีที่มาสร้างมิติใหม่ ด้วยฟังก์ชันของจักรยานนั่งปั่นที่สามารถเชื่อมต่อระบบเข้ากับ VR (Virtual Reality) พาผู้ใช้งานเข้าสู่โลกออนไลน์เสมือนจริง เพื่อสัมผัสประสบการณ์การปั่นจักรยานแบบ Free Ride หรือตั้งค่าการซ้อมปั่นแบบทางเรียบหรือทางขรุขระขึ้นเขาก็ได้หมด อีกทั้งยังมีการประลองฝีมือปั่นจักรยานแบบทีมให้เพิ่มความท้าทายและความสนุกสนานได้อีกด้วย!

ภาพจาก uszwift

ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจด้วยคลาสออกกำลังกายแบบ Recovery

คลาสออกกำลังกายแบบ Recovery ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะลูกค้าเริ่มหันมาใส่ใจกับการออกกำลังกาย หลังจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากขึ้น ซึ่งคลาสออกกำลังกายแบบ Recovery จะเน้นไปทางการออกกำลังกายเบา ๆ ฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจให้กับลูกค้าทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น

คลาสโยคะ

คลาสโยคะ ที่เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับลูกค้าทุกเพศทุกวัย เน้นการออกกำลังกายเพื่อยืดหยุ่นกล้ามเนื้อให้ผ่อนคลาย ลดอาการบาดเจ็บจากกล้ามเนื้อตึงหรืออักเสบและช่วยให้ระบบการไหลเวียนเลือดทั่วทั้งร่างกายดีมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้มีสมาธิที่ดีและผ่อนคลายความเครียดได้ดีอีกด้วย

ภาพจาก classpass

คลาสแอโรบิค

เป็นการออกกำลังกายด้วยการเต้นเพื่อขยับร่างกายไปตามจังหวะพร้อม ๆ กับเพลง ทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ กระชับมากขึ้นจากการขยับและเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสร้างความสนุกและเพลิดเพลินให้กับลูกค้าไปกับเพลงในขณะที่ออกกำลังกาย

ภาพจาก livestrong

ปรับท่าทางไปกับคลาสออกกำลังกายแบบ Posture Workout

อีกหนึ่งเทรนด์ออกกำลังกายปี 2023 Posture Workout ที่เป็นการออกกำลังกายด้วยการเคลื่อนไหวที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้ดีมากขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าที่ประสบปัญหากับอาการปวดกล้ามเนื้อต่าง ๆ เช่น ออฟฟิศซินโดรม ตะคริว กล้ามเนื้ออักเสบ เป็นต้น

คลาสพิลาทิส

การออกกำลังกายที่เน้นเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและความยืดหยุ่นของร่างกายด้วยการเคลื่อนไหว ซึ่งจะช่วยปรับบุคลิกภาพ ท่าทางการนั่งและยืนให้ดีขึ้น อีกทั้งแก้อาการปวดหลังและออฟฟิศซินโดรมได้ดีอีกด้วย

ภาพจาก yawa

ออกกำลังกายไปกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ด้วย Hybrid Fitness

Hybrid Fitness เป็นการออกกำลังกายแบบผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายที่ฟิตเนสกับการออกกำลังกายที่บ้านควบคู่กันไปในยุค New Normal เป็นวิธีการที่ทำให้ลูกค้าออกกำลังกายได้อย่างไม่ติดขัด ถึงแม้ว่าไม่มีเวลาออกกำลังกายในบางช่วง ฟิตเนสของคุณก็สามารถให้บริการแก่ลูกค้าผ่านทางออนไลน์ได้เช่นกัน

ภาพจาก healthmanagement

สวมใส่เทคโนโลยีไปพร้อมกันการออกกำลังกายด้วย Wearable Technology

Wearable Technology คือเทคโนโลยีอุปกรณ์สวมใส่ติดตัวอัจฉริยะ ที่มาในรูปแบบนาฬิกา, กำไลข้อมือ และอื่น ๆ อีกมากมายเช่น Smart Watch, Smart Badge ฯลฯ ในขณะที่เรากำลังออกกำลังกาย อุปกรณ์อัจฉริยะเหล่านี้จะมีการเก็บข้อมูลไม่ว่าจะเป็น Heart Rate (อัตราการเต้นของหัวใจ), จำนวนก้าว, จับเวลาและระยะทางการวิ่ง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ จะช่วยให้คุณออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น

ภาพจาก shrm

สรุปทั้งหมด

การปรับเปลี่ยนฟิตเนสให้เข้ากับเทรนด์การออกกำลังกายในปัจจุบัน ถือเป็นการยกระดับฟิตเนสของคุณให้ตอบโจทย์ต่อไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ทำให้ลูกค้าสนใจและเลือกที่จะเข้ามาใช้งานฟิตเนสของคุณมากขึ้น ดังนั้นถ้าฟิตเนสของคุณมีอัปเดตตามเทรนด์ออกกำลังกายอยู่ตลอดเวลา รับประกันได้เลยว่าจะต้องมีฐานลูกค้าและกำไรที่เพิ่มมากขึ้นมาอย่างแน่นอน

อย่าลืมกดไลค์และติดตามเพจ NBA Sportmanagement เพื่อให้คุณไม่พลาดคอนเทนท์ด้านฟิตเนสที่ จะมาแชร์เทคนิคการออกกำลังกายต่าง ๆ รวมไปถึงกลยุทธ์การทำธุรกิจฟิตเนส ที่ใครอยากเปิดฟิตเนสต้องห้ามพลาด! กดติดตามได้ทันทีเลยที่เพจ NBA Sportmanagement

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!