ระหว่าง HIIT และ Cardio การออกกำลังกายแบบไหนดีกว่ากัน ? อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าทั้ง HIIT และ Cardio คือการออกกำลังกายที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการลดไขมันเหมือนกัน แต่คนที่ออกกำลังกาย
เป็นประจำ หรือ นักกีฬาที่ต้องการพัฒนาร่างกายส่วนใหญ่เลือกการออกกำลังกายแบบ HIIT มากกว่าการทำ Cardio ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ? ในบทความนี้ NBA Sportmanagement มีคำตอบมาให้แล้ว
HIIT หรือ High Intensity Interval Training คือการออกกำลังกายเพื่อลดไขมันด้วยความเข้มข้นที่สูง และทำให้ร่างกายสูบฉีดเลือดมากขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ สลับกับการพักเป็นช่วง ๆ ตามที่โปรแกรมการฝึกกำหนด หรือสามารถเรียกได้อีกแบบหนึ่งว่าเป็นการออกกำลังกายแบบเร็ว สลับกับช้า นั่นเอง
ตัวอย่างของการทำ HIIT ที่นิยมทำกันอย่างแพร่หลาย อาทิเช่น
การทำ HIIT นั้นสามารถลดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการทำ Cardio เพราะเหตุผลดังนี้
เพราะการออกกำลังกายแบบ HIIT คือการทำให้ร่างกายทำงานหนักในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ด้วยความเข้มข้นที่สูง เพราะฉะนั้นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ที่เราออกกกำลังกายนั้น จะทำให้ร่างกายได้มีการเผาผลาญไขมันด้วยอัตราการเผาผลาญที่มากขึ้นกว่าการทำ Cardio
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณเดินบนลู่วิ่งไฟฟ้าด้วยความเร็วคงที่ 4 กิโลเมตร / ชั่วโมง เป็นเวลา 30 นาทีคุณจะสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ประมาณ 150 กิโลแคลอรี่ แต่ถ้าหากคุณกระโดดเชือก หรือ ออกกำลังกายท่า Burpee ในระยะเวลาที่เท่ากัน คุณจะสามารถเผาผลาญไขมันได้สูงมากถึง 250 - 300 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว
การทำ HIIT ส่วนใหญ่นั้นเป็นการออกกำลังกายรูปแบบ Free Weight หรือ การออกกำลังกายโดยที่ใช้ร่างกายของผู้ออกกำลังกายในท่าทางต่าง ๆ เป็นหลักโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์ เช่นการกระโดดตบ การทำ Burpee และ การทำท่า Mountain Climber เป็นต้น
การออกกำลังกายแบบ HIIT นั้นสามารถทำให้ร่างกายเกิด Afterburn Effect หรือการเผาผลาญแคลอรี่ที่เทียบเท่ากับระหว่างออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องหลังจากหยุดออกกำลังกาย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้นานที่สุดถึง 14 ชั่วโมง เลยทีเดียว
ตามที่กล่าวไปในข้างต้นว่า HIIT คือการออกกำลังกายที่ใช้ความเข้มข้นสูงซึ่งแปลว่าจะส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้มากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้เราไม่จำเป็นจะต้องออกกำลังกายเป็นระยะเวลานานเท่ากับการ Cardio ทั่วไป
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณเดินออกกำลังกายบนลู่วิ่งไฟฟ้าด้วยความเร็วคงที่ 6.00 กิโลเมตร / ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 30 นาที คุณจะสามารถเผาผลาญไขมันได้ 215 กิโลแคลอรี่
แต่ถ้าหากคุณวิ่งบนลู่วิ่งแบบ 30 Second Sprint Interval ซึ่งคือการวิ่งเร็วแบบสุดความสามารถเป็นเวลา 30 วินาที สลับกับการเดินช้า 1 นาที 30 วินาที วนจนครบ 20 นาที คุณจะสามารถเผาผลาญได้มากสุดถึง 225 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว!
จริง ๆ แล้วทั้ง HIIT และ Cardio นั้นส่งผลระยะยาวที่ใกล้เคียงกัน นั่นก็คือทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น และ หัวใจแข็งแรงมากขึ้น กระตุ้นระบบเผาผลาญไขมันของร่างกาย รวมไปถึงการสร้างความแข็งแรงให้กับปอด ทำให้เรามีสมรรถนะในการออกกำลังกายที่ดีมากขึ้นอีกด้วย
การออกกำลังกายรูปแบบ HIIT นั้นสามารถทำได้ง่าย ไม่ว่าจะมีอุปกรณ์ในการออกกำลังกายหรือไม่ ก็ตาม แต่ผู้ออกกำลังกายควรที่จะรู้ลิมิตในการออกกำลังกายของตัวเอง เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ รวมไปถึงการผ่อนคลาย (Cooldown) หลังจากการออกกำลังกาย
แต่ถ้าหากใครที่ไม่ถนัดในการออกกำลังกาย HIIT ในรูปแบบของ Body Weight นั้น ก็สามารถใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ในการออกกำลังกายได้
สำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหาลู่วิ่งไฟฟ้าคุณภาพดีในการออกกำลังกายแบบ HIIT ที่บ้านหรือโฮมยิม NBA Sportmangement ขอแนะนำ ลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum T3C2A ลู่วิ่งไฟฟ้าตัวเล็ก สเปคเกินคุ้ม เหมาะสำหรับการออกกำลังกายที่บ้าน สามารถรองรับได้ทั้งการออกกำลังกายแบบ HIIT และ Cardio
มาพร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ ซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum T3C2A วันนี้รับส่วนลดกว่า 6,000 บาท จากราคาเต็ม 55,900 บาท เหลือเพียง 49,000 บาทเท่านั้น !!
สั่งซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าราคาโปรโมชันได้เพียงคลิกลิงก์ >>> NBA Sportmanagement
ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ