การแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดธุรกิจฟิตเนส ทำให้เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องงัดทุกกลเม็ดมาใช้ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการมากขึ้น แต่ในปี 2024 จะใช้กลยุทธ์ 4Ps ถือว่าเก่าเกินไปและอาจใช้ไม่ได้ผลในปัจจุบัน NBA Sportmanagement เลยจะมาแนะนำกลยุทธ์ใหม่อย่าง 4C Marketing ที่จะช่วยเอาชนะใจลูกค้า ให้ฟิตเนสยืนหนึ่งทั้งการให้บริการและการขายกันในบทความนี้
4C Marketing คือส่วนผสมทางการตลาด ที่พัฒนาต่อมาจาก 4P โดยคิดในมุมมองของการ วิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค เป็นหลัก เพื่อนำมาเป็นเครื่องมือ ใช้พัฒนาธุรกิจให้เอาชนะใจลูกค้า สร้างความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) โดยมี 4C ประกอบด้วย
ซึ่งแต่ละ C จะให้ความสำคัญกับความคิด หรือความรู้สึกของลูกค้า เป็นหลัก ต่างจาก 4P ที่จะคิดจากมุมมองของตัวธุรกิจเองเป็นหลัก ทำให้ตอบโจทย์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าในปัจจุบันมากขึ้น ที่มักจะคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ได้มองแค่การได้รับสินค้าหรือบริการ แต่มองถึงประสบการณ์ (Experience) ความคุ้มค่าที่ได้รับด้วย
จุดเด่นที่ทำให้การใช้ 4C กับธุรกิจฟิตเนสดีกว่า 4Ps นั้นมีดังต่อไปนี้
ปรับมาให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยดูว่ากลุ่มเป้าหมายที่ฟิตเนสต้องการเป็นใคร มองหาสินค้าหรือบริการแบบไหนอยู่ เพื่อมอบสินค้าหรือบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ตรงจุด เช่น ลูกค้าของธุรกิจฟิตเนส อาจไม่ได้ต้องการเครื่องออกกำลังกาย (Product) ที่พรีเมียมตัวท็อป แต่ต้องการเทรนเนอร์ที่แนะนำการออกกำลังกายได้ละเอียดมากกว่า เป็นต้น
เปลี่ยนการกำหนดราคาของสินค้าหรือบริการในฟิตเนส (Price) โดยไม่คิดถึงต้นทุน หรือกำไร แต่มาคิดต้นทุนในมุมมองของผู้บริโภค (Cost) แทน ตั้งคำถามว่าจะต้องตั้งราคาเท่าไหร่ ที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึก "เต็มใจ" ที่จะจ่าย เพื่อให้ได้สินค้าหรือบริการนั้น ๆ
เพราะลูกค้าไม่ได้เสียแค่ค่าสินค้าหรือบริการฟิตเนส แต่ต้องเสียค่าอื่น ๆ เช่นค่าน้ำมัน หรือค่าเสียเวลาด้วย จึงต้องทำความเข้าใจในมุมมองของผู้บริโภคเพิ่มเติม เพื่อตั้งราคาให้ละเอียดและตอบโจทย์ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
แม้ว่าความพึงพอใจในด้านราคานั้น ดูจะเป็นสิ่งที่อธิบายให้เห็นภาพได้ยาก แต่มีสูตรที่สามารถให้ธุรกิจฟิตเนสนำไปปรับใช้อย่างเป็นรูปธรรมได้ คือ "คุณค่าของสินค้า - ค่าใช้จ่าย = / > 0"
อธิบายด้วยเหตุการณ์สมมุติคือ หากลูกค้าคิดว่าสินค้า/บริการของฟิตเนสนั้น มีคุณค่าราคา 1,000 บาท และลูกค้ามีค่าใช้จ่าย เช่นค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลา ตีเป็นเงิน 200 บาท และฟิตเนสขายสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ในราคา 500 บาท ก็จะทำให้เกิดเป็นตามสูตรคือ
" 1,000 - (200+500) = / > 0"
ซึ่งความหมายคือ เมื่อนำมูลค่าสินค้า (1000) มาหักลบกับค่าใช้จ่ายของลูกค้า (200+500) แล้วถ้าผลลัพธ์ไม่ติดลบ แสดงว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ลูกค้ารู้สึกเต็มใจที่จะจ่าย คุ้มค่า เพราะจ่ายถูกกว่ามูลค่าสินค้าที่ได้รับนั่นเอง
เปลี่ยนจากการคิดเรื่องสถานที่ (Place) มาเป็นคำนึงถึง การมอบความสะดวกในการซื้อให้กับลูกค้า ทำได้โดยกระจายสินค้าหรือบริการของฟิตเนส ไปยังหลายพื้นที่ให้มากขึ้น หรือต่อยอดจากออฟไลน์หน้าร้าน สู่แพลตฟอร์มออนไลน์ เช่นการเปิดคอร์สเทรนออกกำลังกายออนไลน์ หรือทำฟิตเนสเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยเอาชนะใจ ดึงดูดลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มมากกว่าเดิม
นอกจากการสื่อสารด้านโปรโมชั่น (Promotion) เพื่อดึงดูดใจลูกค้าแล้ว สามารถใช้เทคนิคส่งเสริมการขาย อย่างการสื่อสาร (Communication) เพื่อทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกผูกพันธ์กับแบรนด์จนกลายเป็นลูกค้าประจำ สร้าง Brand Loyalty ได้ด้วยกลยุทธ์การสื่อสารเหล่านี้
จะเห็นว่าการใช้ 4C นั้นจะช่วยดึงดูดลูกค้า สร้างกำไรให้มากขึ้นได้ เพราะจะทำให้ธุรกิจตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น เน้นไปที่การมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการ คำนึงถึงมุมมองของ “ลูกค้า” เป็นหลัก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะกับธุรกิจฟิตเนส ที่จำเป็นจะต้องเอาชนะใจ เพื่อสร้างฐานลูกค้าระยะยาว มากกว่าการเพิ่มยอดขายในระยะสั้น แต่ไม่ยั่งยืน
ปรับ Fitness เพื่อเป็น Top of Mind ในใจลูกค้า ให้ NBA Sportmanagement ช่วย ปรึกษาฟรี! รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์ 20 ปี พร้อมแนะนำอุปกรณ์ออกกำลังกายทุกรูปแบบ ให้ฟิตเนสทันสมัย ไม่ตกเทรนด์ ทัก NBA Sportmanagement >>> m.me/NBAsportmangement
ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ